เปิดไทม์ไลน์ จากตามหา ‘ผีน้อย’ หายตัว ก่อนเจอเป็นศพถูกทิ้ง เถ้าแก่อ้าง ‘หนีไปแล้ว’ ก่อนโดนรวบ

Source : (Kim Dal-seong, CEO of Pocheon Migrant Workers Center, Facebook) / Farida Ma’s Facebook live

เปิดไทม์ไลน์ ‘ผีน้อย’ หายตัว 4 วัน ก่อนเจอเป็นศพ ชี้ 10 ปีไม่เคยเปลี่ยนงาน แต่เถ้าแก่อ้าง ‘หนีไปแล้ว’ สุดท้ายโดนรวบ

กลายเป็นหนึ่งในคดีสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับแรงงานชาวไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ หรือที่เรียกกันว่า “ผีน้อย”

หลัง ชายอายุ 67 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนขอนแก่น ได้หายตัวไป ระหว่างทำงานในฟาร์มหมูแห่งหนึ่ง ในเมืองโพชอน จ.คยองกี ทางครอบครัวจึงได้ประสานกับคนไทยในเกาหลีให้ช่วยตามหา และได้เข้าแจ้งความ ตลอดประสานงานกับตำรวจ

กระทั่งล่าสุดสื่อเกาหลีใต้ รายงานว่า เถ้าแก่ฟาร์มหมูถูกจับ หลังมีแรงงานชาวไทย อายุ 67 ปีเสียชีวิตในที่ทำงาน และถูกนำไปทิ้งบนเขาเพื่ออำพรางการจ้างงานผิดกฎหมาย ทว่ายังไม่ได้สรุปคดีว่าเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ และเสียชีวิตด้วยเหตุใด

Advertisement

โดย มติชน ได้เรียบเรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์ ไว้ดังนี้

  • 1 มีนาคม

ลุง บ. ชายชาวขอนแก่น อายุ 67 ปี เดินทางมาทำงานที่เกาหลีใต้ เป็นระยะเวลา 10 ปี ที่ฟาร์มหมูแห่งหนึ่ง ในเมืองโพชอน จ.คยองกี ไม่เคยย้ายที่ทำงานเลย แต่จู่ๆ “ไม่สามารถติดต่อได้” (โทรติด แต่ไม่มีคนรับสาย) ซึ่งผิดวิสัยที่ลุงมักจะโทรคุยกับภรรยาที่อยู่ไทยทุกวัน ไม่เคยขาด ทำให้ครอบครัวที่ไทยเป็นห่วงมาก จึงติดต่อทางคณะคนไทยในเกาหลีให้ช่วยตามหา

  • 2 มีนาคม

ภรรยาโทรหาตอนเช้าติด แต่ไม่มีคนรับสาย คิดว่าทำงานอยู่คงไม่สะดวก ทว่าเมื่อโทรหาในตอนบ่าย ไม่ติด

Advertisement
  • 3 มีนาคม

หนุ่มชาวไทย ซึ่งรู้จักกับ ลุง บ. ได้โทรหาเถ้าแก่เจ้าของฟาร์มหมู เพื่อถามหา ลุง บ. แต่เถ้าแก่บอกว่า “ไม่รู้ ไม่เห็น หนีแล้ว”

  • 4 มีนาคม

เฟซบุ๊ก Farida Ma เจ้าของร้านอาหารไทย และร้านของชำ ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ และทำกิจกรรมเพื่อสังคม คอยช่วยเหลือคนไทยในเกาหลีอยู่เสมอ ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กขณะเดินทางไปยังฟาร์มหมู ที่ทำงานของลุง บ. เพื่อมาตามหา หลังติดต่อไม่ได้มาเป็นระยะเวลา 4 วันแล้ว

เธอเล่าว่า สำหรับเรื่องจะแอบไปเที่ยวหรือมีสาวใหม่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะลุงโทรคุยกับภรรยาทุกวัน ทว่าเมื่อไปถึง คณะคนไทยได้โทรหาเจ้าของฟาร์ม แต่ปรากฏว่าอีกฝ่าย “ไม่รับสาย” ทั้งๆ ที่ปกติก็รับสายทุกครั้ง จึงไม่กล้าเข้าไปในฟาร์ม จึงเดินทางกลับไปยังโรงพัก เพื่อแจ้งความคนหาย

หลังจากนั้น เจ้าของเฟซบุ๊กได้ไลฟ์อีกครั้ง มาพร้อมกับตำรวจเกาหลี 2 นายที่รับคดีแล้ว และเดินทางมายังฟาร์มหมูเพื่อตรวจสอบ พร้อมเรียกเถ้าแก่ออกมาสอบถาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุย ขณะที่คณะคนไทยได้รออยู่ด้านนอก

Source : ‘Farida Ma’s Facebook live

หลังจากรอไม่นาน ตำรวจได้เดินออกมาจากฟาร์มหมู บอกให้คณะคนไทย โทรแจ้งความกับเบอร์ 112 ซึ่งเป็นเบอร์สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่อดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้ต่อ จากนั้นไม่นานกำลังเสริมก็ได้มาสมทบพร้อมกับหมายค้น และรถพยาบาล

ต่อมาตำรวจได้นำมือถือในสภาพยับเยินมาให้คณะคนไทยดู และสอบถามว่าใช่ของ ลุง บ. หรือไม่

Source : ‘Farida Ma’s Facebook live

ก่อนที่จะปิดไลฟ์ไป และแจ้งให้ทราบในไลฟ์ต่อมาว่า ตำรวจให้คณะคนไทยกลับก่อน ทว่าตำรวจยังอยู่สอบสวนต่อ

“เถ้าแก่ก็ไม่ให้เราเข้าไปในฟาร์ม โวยวายตลอด ถึงกับด่าไปถึงตำรวจด้วย น้า บ. แกเงินเดือนออกวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ก็ยังติดต่อกับภรรยาตลอด ตอนแรกตำรวจสันนิษฐานว่าหรือเป็นเพราะโทรศัพท์พัง แต่ตอนนี้ก็เจอของอยู่ครบหมด เหลือแต่โทรศัพท์ที่หาไม่เจอ ยกเว้นโทรศัพท์อันเก่าที่เอามาให้เราดูตอนแรก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นโทรศัพท์ของใครเพราะพังมากจนดูไม่ออก” คณะคนไทยกล่าวในไลฟ์และว่า

“กล้องวงจรปิดในฟาร์มมี 4 ตัว แต่ตำรวจบอกว่าแตก 1 เครื่อง ตอนที่ตำรวจกว่า 10 นายเดินสำรวจ เถ้าแก่ก็ไม่ออกมาดูเลย ปิดประตูอยู่แต่ในห้อง และตำรวจได้ตรวจสอบตามหมายเลขพาสปอร์ต และ ตม.แล้ว ไม่พบข้อมูลว่าถูกจับ ตำรวจก็พยายามถามว่าแกจะหนีไปกับเพื่อนไหม ก็บอกว่าไม่หนีแน่นอน กระทั่งเถ้าแก่ฟาร์มข้างๆ ยังมายืนยันให้ว่าคนนี้ไม่หนีไปไหนหรอก นอกจากนี้จะหนีทำไมเพราะ ลุง บ. มีแพลนกลับบ้านในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว”

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ เจ้าของเฟซได้โพสต์ข้อความและรูปภาพของ ลุง บ. เพื่อตามหา ระบุว่า “ปุกาดๆๆ คนหายยังไม่เจอ น้า บ. อายุ 67 ปี สูง 156 ซม. อุปนิสัยไม่ดื่ม ตั้งใจทำงานเก็บเงิน ไม่ออกไปไหนอยู่แต่โรงงาน ติดต่อไม่ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ใครเห็นหรือพบเจอแจ้งหน่อยนะค่ะ มาเกาหลี 10 ปี ไม่เคยย้ายโรงงาน”

  • 5 มีนาคม

เฟซบุ๊ก Farida Ma โพสต์ข้อความระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจด้วยกับครอบครัว น้า บ. เด้อ พวกหนูช่วยเต็มที่ ไปๆกลับบ้านเฮา” และว่า “พบศพน้าแล้วนะคะ น้าเสียชีวิตแล้วค่ะ พบศพ บนเขาหลัง ฟาร์มที่น้าทำงาน” โดยมีผู้เข้าไปคอมเมนต์แสดงความเสียใจจำนวนมาก

ก่อนจะไลฟ์แชร์เรื่องราว ระบุว่า “พบศพบนเขาหลังฟาร์มหมู คิดว่าน่าจะเจอตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้ “ยังไม่สรุปเหตุการตาย”

ทางเจ้าหน้าที่เขาบอกแค่ว่า เสียชีวิตแล้ว และให้เราดูรูปภาพ คือถูกนำไปทิ้งเฉยๆ เลย ไม่มีการฝัง สวมชุดนอนแล้วมีเสื้อคลุมไม่แน่ใจว่าเป็นเสื้อกันหนาวหรือชุดทำงาน ไม่มีบาดแผล มีเฉพาะแผลบนหัว แต่ตำรวจบอกว่าไม่ได้เป็นรอยที่เกิดจากการต่อสู้ สงสารลุงมากเพราะจะกลับบ้านเดือนหน้าแล้ว เตรียมเงินไว้ 2 ล้าน ไว้ซื้อตั๋วกลับบ้าน

ทั้งนี้ตำรวจแจ้งว่าจะใช้เวลาชันสูตรและดำเนินคดีทั้งหมดประมาณ 2-3 สัปดาห์ ญาติสามารถมารับศพได้”

สถานที่ที่เจ้าของฟาร์มหมูนำศพไปทิ้ง Source : (Kim Dal-seong, CEO of Pocheon Migrant Workers Center, Facebook)

ขณะเดียวกันเธอยังแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า จากการสอบถามหลายๆ คนคิดว่าน่าจะไม่ใช่เหตุฆาตกรรม เพราะเถ้าแก่ก็เป็นคนโอเค หากไม่โอเคก็ไม่น่าจะอยู่ได้นานถึง 10 ปี และไม่พบร่องรอยต่อสู้ อาจจะป่วยเสียชีวิต หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันก็ไม่ทราบได้ และการนำศพไปทิ้ง อาจจะเพราะกลัวกรณีจ้างแรงงานผิดกฎหมายก็เป็นได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แม่ค้าจิตอาสา ยังระบุอีกว่า พี่น้องคนไทยในเกาหลีก็ดูแลกันด้วย เพราะกรณีแบบนี้ก็มีเยอะ บางคนก็สุขภาพจิตย่ำแย่วิ่งขึ้นเขาไปดับชีวิตลาโลกก็มี

  • 6 มีนาคม

เฟซบุ๊ก Farida Ma ได้อัพเดตสถานการณ์ต่อว่า วันนี้ ตำรวจได้โทรหาตนแต่ไม่ได้รับ จึงโทรหาเพื่อนคนไทยอีกคนบอกว่า “ยังสอบสวนอยู่” ยังไม่ได้สรุปสำนวน

ทั้งนี้สื่อเกาหลีรายงานว่า เถ้าแก่ฟาร์มหมู ถูกจับแล้ว หลังมีผีน้อยชาวไทยเสียชีวิตในที่ทำงาน และถูกนำไปทิ้งบนเขาเพื่ออำพรางการจ้างงานผิดกฎหมาย และยังไม่ได้สรุปว่าเป็นการฆาตกรรมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิต เธออัพเดตว่า ภรรยาและลูกชาย ของ ลุง บ. กำลังเตรียมตัวจะบินมาเกาหลีเพื่อรับศพกลับบ้าน และทำพิธีซ้อนขวัญ พร้อมเผยว่า ลุง บ. เก็บเงินไว้ 2 ล้านแล้ว และมีกำหนดจะบินกลับประเทศไทย ในเดือนหน้านี้เอง

  • 7 มีนาคม

สำนักข่าวเกาหลีใต้ รายงานข่าวจับกุมเจ้าของฟาร์มหมูมาสอบสวน ให้การยอมรับข้อหานำศพไปทิ้งหลังเนินเขา ทว่าคดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นยังไม่สรุปสำนวนคดี

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เจ้าของฟาร์มหมู ให้การยอมรับข้อกล่าวหาเรื่องการทิ้งศพ ทว่าในรายงานไม่ได้ระบุถึงคดีอื่นๆ ร่วมด้วย อย่างไรก็ตามจากการชันสูตรศพครั้งแรก ไม่พบร่องรอยที่ไปนำสู่การเชื่อได้ว่าเป็นการฆาตกรรม และยังพบว่าผู้เสียชีวิต มีปัญหาด้านสุขภาพ

ขณะที่สื่อเกาหลีได้พาดหัวถึงประเด็นสภาพความเป็นอยู่ในฟาร์มหมูของแรงงานว่า “เลวร้ายยิ่งกว่าคอกสัตว์” กระทั่ง คิม ดัลซิง ผู้อำนวยการ สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว เมืองโพชอน จ.คยองกี ถึงกับโพสต์ภาพห้องพักในคอกหมูร้าง และเรียกร้องให้ตำรวจทำการสอบสวนคดีนี้อย่างละเอียด

“เหล่าแรงงานที่ถูกเรียกว่า ผีน้อย เหล่านี้ ได้รับอนุญาตให้ทอดทิ้ง หลังพวกเขาทำงานจนตายได้หรือ? คำตอบคือ ไม่ เพราะศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่ล่วงละเมิดไม่ได้ และไม่มีเงื่อนไขได้ล่วงล้ำ” ผอ.คิมกล่าว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : ผีน้อยวัย 67 ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายพบเป็นศพ เจ้าของฟาร์มหมูนำทิ้งหลังเนินเขา

Source : (Kim Dal-seong, CEO of Pocheon Migrant Workers Center, Facebook)
Source : (Kim Dal-seong, CEO of Pocheon Migrant Workers Center, Facebook)
Source : (Kim Dal-seong, CEO of Pocheon Migrant Workers Center, Facebook)

ที่มา : Farida Ma김달성สำนักข่าวเกาหลีใต้ The Dong-A Ilbo

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image