จับตาเผชิญหน้า! สหรัฐโวย บินรัสเซียทำโดรนสอดแนมมะกันตกในทะเลดำ
เกิดการเผชิญหน้าโดยตรงครั้งแรกระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน หลังกองทัพสหรัฐแถลงว่าเครื่องบินรบรัสเซียทำให้ใบพัดโดรนสอดแนมสหรัฐฉีกขาด เป็นเหตุให้มันตกลงในทะเลดำเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
ขณะที่เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐรุในทางตรงกันข้ามว่า รัสเซียมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการยั่วยุของสหรัฐ ที่เกี่ยวเนื่องกับโดรน เอ็มคิว-9 ของสหรัฐ กับเครื่องบินขับไล่ ซู-27 ของรัสเซีย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินขับไล่ ซู-27 ของรัสเซีย 2 ลำได้ดำเนินการตามที่สหรัฐกล่าวอ้างว่า เป็นการสกัดโดรนสอดแนมของสหรัฐโดยประมาทขณะที่มันกำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากล โดยเครื่องบินรัสเซียได้ทิ้งเชื้อเพลิงใส่โดรน เอ็มคิว-9 อาจเพื่อพยายามให้มันไม่สามารถเก็บภาพใดๆ ได้ หรือสร้างความเสียหายให้กับโดรน จากนั้นก็ได้บินตัดหน้าในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นผ่านไปประมาณ 30-40 นาที ในเวลาราว 07.03 น. เครื่องบินลำหนึ่งได้ชนเข้ากับโดรน จนเป็นเหตุให้โดรนตก โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า รัสเซียยังไม่ได้เก็บกู้โดรนลำดังกล่าวขึ้นมา และคาดว่าเครื่องบินไอพ่นของรัสเซียน่าจะได้รับความเสียหาย
พล.อ.อ.เจมส์ เฮกเกอร์ ซึ่งกำกับดูแลกองทัพสหรัฐในภูมิภาคดังกล่าวออกแถลงการณ์ระบุว่า การกระทำที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพของรัสเซีย เกือบทำให้เครื่องบินทั้งสองลำตก
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียปฏิเสธว่า เครื่องบินของรัสเซียไม่ได้สัมผัสกับโดรนที่ตกลง หลังจากสิ่งที่รัสเซียเรียกว่าเป็น “การหลบหลีกอย่างฉับพลัน” เครื่องบินรบรัสเซียไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ ไม่ได้มีการสัมผัสกับโดรน และกลับมายังสนามบินอย่างปลอดภัย พร้อมกับเสริมว่า โดรนดังกล่าวถูกตรวจพบใกล้กับคาบสมุทรไครเมีย
นายเน็ต ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศได้เรียกตัวนายอนาโตลี แอนโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐมาหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหนือทะเลดำ
สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายแอนโตนอฟว่า การหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และไม่ได้มีการหยิบยกประเด็นของผลที่จะเกิดขึ้นตามมากับรัสเซียแต่อย่างใด
“รัสเซียไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย เราสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดผลจริงในทางปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวรัสเซียและสหรัฐ” นายแอนโตนอฟกล่าว