‘มาครง’ รอดโหวตไม่ไว้วางใจ 2 รอบ หลังเพิ่มอายุเกษียณ ไม่ผ่านสภา

REUTERS

‘มาครง’ รอดโหวตไม่ไว้วางใจ 2 รอบ หลังเพิ่มอายุเกษียณ ไม่ผ่านสภา

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง รอดจากการโหวตไม่ไว้วางใจ 2 ครั้งในสภา ในขณะที่การประท้วงต่อต้านการขยายเวลาเกษียณอายุจาก 62 เป็น 64 ปียังคงดำเนินต่อไปในหลายเมืองทั่วฝรั่งเศส

กลุ่มแนวร่วมฝ่ายกลาง LIOT ยื่นญัตติโหวตไม่ไว้วางใจ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายซ้าย มีสมาชิกรัฐสภาโหวตไม่ไว้วางใจอยู่ที่ 278 เสียง ขาดเพียง 9 เสียงจะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรของฝรั่งเศส ซึ่งมีทั้งหมด 577 เสียง สูสีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ต่อมา พรรคเนชั่นแนลแรลลี ฝ่ายขวาจัดเป็นฝ่ายยื่นญัตติโหวตไม่ไว้วางใจบ้าง โดยในครั้งนี้ได้รับเสียงโหวตไม่ไว้วางใจเพียง 94 เสียงในสภา

Advertisement

การรอดจากญัตติโหวตไม่ไว้วางใจทั้ง 2 ครั้งในสภา หมายความว่าการปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญ ซึ่งมีสาระสำคัญคือการขยายเวลาเกษียณอายุ ได้ผ่านการรับรองโดยสภานิติบัญญัติแล้ว

หลังมีการประกาศผลการโหวตไม่ไว้วางใจ สมาชิกของพรรค La France Insoumise ฝ่ายซ้ายจัดในสภาต่างตะโกนเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอลิซาเบธ บอร์น ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับถือป้ายที่มีข้อความว่า “เดี๋ยวเจอกันบนถนน”

สถานการณ์การประท้วงในประเทศฝรั่งเศสยังคงลุกลามต่อไปในช่วงสายของวันที่ 20 มีนาคม กลุ่มผู้ประท้วงในกรุงปารีสมีการจุดไฟเผาถังขยะ และปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมในบางบริเวณ เช่นเดียวกับหลายเมืองในฝรั่งเศส อาทิ เมืองดิฌง เมืองสตารส์บูร์ก และแรนส์ ที่ผู้ประท้วงต่างทุบกระจกของห้างสรรพสินค้า

Advertisement

ยิ่งไปกว่านั้น จะมีการประท้วงหยุดงานอีกครั้งในวันที่ 23 มีนาคมนี้ โดยคาดว่าจะทำให้การขนส่งสาธารณะในหลายพื้นที่ต้องหยุดชะงัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image