องค์การณ์สหประชาชาติ เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เรียกร้องโดยตรงไปยังนางออง ซาน ซูจี ตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งรัฐ ผู้นำโดยพฤตินัยของประเทศพม่า ให้ลงพื้นที่รัฐยะไข่ พื้นที่ซึ่งมีรายงานกล่าวหาว่ากองทัพพม่ากวาดล้างมุสลิมชาวโรฮีนจาอย่างโหดเหี้ยม
ในแถลงการณ์เผยแพร่ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในวันเดียวกัน วิเจย์ นัมเบียร์ ที่ปรึกษาด้านกิจการพม่าประจำสหประชาชาติ เรียกร้องโดยตรงไปยังนางซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ ให้เข้าแทรกแซงวิกฤตการณ์ดังกล่าว
“การดำเนินนโยบายเชิงรับแทนที่จะเป็นเชิงรุกเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจในพื้นที่และสร้างความผิดหวังให้กับนานาชาติ” นัมเบียร์ระบุ และว่า “ผมขอเรียกร้องให้ดอว์ซู เดินทางเยี่ยมเมืองมองดอว์และบูตีต่องและทำให้แน่ใจว่าพลเรือนในพื้นที่จะได้รับการคุ้มครอง”
นางซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากการที่ไม่สามารถหยุดยั้งกองทัพในปฏิบัติการณ์ในรัฐยะไข่ ปฏิบัติการซึ่งผลักดันให้ชาวโรฮีนจากว่า 20,000 คนต้องอพยพไปยังประเทศบังกลาเทศ โดยมีรายงานถึงการข่มขืน ฆาตกรรมและวางเพลิงเผาบ้านเรือนด้วย โดยปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่นั้นมีขึ้นหลังเหตุการณ์บุกโจมตีสถานีตำรวจเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ ทางการมาเลเซีย กล่าวโจมตีกองทัพพม่าว่าทำการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ด้านเจ้าหน้าที่ทางการพม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างหนักแน่น
ทั้งนี้นางซูจี เคยให้คำอธิบายสถานการณ์ในรัฐยะไข่ว่า อยู่ภายใต้การควบคุมและเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติหยุดเติมเชื้อไฟแห่งความไม่พอใจให้เพิ่มมากขึ้น