พายุน้ำแข็งพัดถล่มแคนาดา ทำไฟดับหลายแสนหลัง ปชช.ดับ 3 ราย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน บ้านเรือนหลายแสนหลังทางทิศตะวันออกของประเทศแคนาดาต้องประสบปัญหาไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เป็นผลมาจากพายุน้ำแข็งที่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 3 รายตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา และสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง
พายุลูกดังกล่าวส่งผลกระทบไปยังรัฐออนแทริโอและรัฐควิเบกที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น โดยบ้านเรือนราว 4 แสนหลังในควิเบกต้องอยู่ท่ามกลางความมืด ลดลงจากช่วงสูงสุดซึ่งอยู่ที่ 1.1 ล้านหลัง ถือเป็นเหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ที่สุดในรัฐควิเบกตั้งแต่ปี 1998 ที่เป็นผลมาจากพายุน้ำแข็งเช่นเดียวกัน
ไฮโดร-ควิเบก ผู้ให้บริการกระแสไฟฟ้าระบุว่าสามารถนำกระแสไฟฟ้ากลับไปสู่บ้านของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบแล้วราว 50% “ทีมงานของเรากำลังทำงานอย่างหนัก และเรามั่นใจว่าลูกค้าอีก 2 แสนหลังคาเรือนจะมีกระแสไฟฟ้าใช้ภายในวันนี้” ไฮโดร-ควิเบกกล่าว
อย่างไรก็ดี เรจิส เทลลิเยร์ โฆษกของไฮโดร-ควิเบกกล่าวเสริมว่าบ้านบางหลังจะยังไม่มีไฟฟ้าใช้ไปจนถึงวันที่ 9 หรือ 10 เมษายนนี้ โดยสภาพอากาศที่ดีขึ้นจะช่วยให้การซ่อมแซมกระแสไฟฟ้าเดินหน้าเร็วยิ่งขึ้น หลังลมกรรโชกแรงจากพายุทำให้ต้นไม้และเสาไฟหักโค่น
ขณะนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุหิมะอยู่ที่ 3 ราย รายแรกเสียชีวิตเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 เม.ย.) ที่รัฐออนแทริโอหลังถูกต้นไม้โค่นล้มทับ รายที่สองเป็นชายวัย 60 ปีถูกกิ่งไม้หล่นทับเสียชีวิตขณะทำความสะอาดบ้านในรัฐควิเบกเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) และรายที่สามเสียชีวิตจากคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษหลังใช้เครื่องปั่นไฟแบบพกพาภายในบ้านที่รัฐควิเบก
เมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก ที่ได้รับผลกระทบหนักจากกระแสไฟฟ้าดับ ได้เปิดศูนย์พักพิงฉุกเฉินชั่วคราว 6 แห่งให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถมาพักค้างคืนได้ ขณะที่ทางการยังคงออกประกาศแนะนำให้ประชาชนอยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า
อ่านข่าวต่างประเทศอื่นๆที่น่าสนใจ