ปินส์จับมือมะกัน จัดซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดใกล้น่านน้ำพิพาทจีน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กองทัพสหรัฐและฟิลิปปินส์เริ่มการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดในวันนี้ (11 เม.ย.) โดยจะมีการใช้กระสุนจริง รวมถึงจรวดโจมตีทำลายเรือ และจะจัดการฝึกในน่านน้ำตรงข้ามกับทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวันซึ่งอาจทำให้จีนไม่พอใจได้
การจัดซ้อมรบประจำปีระหว่างกองทัพสหรัฐและฟิลิปปินส์มีชื่อว่า บาลิกาตัน แปลเป็นภาษาตากาล็อกว่า เคียงบ่าเคียงไหล่ โดยจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 28 เมษายน มีทหารเข้าร่วมทั้งสิ้นกว่า 17,600 นาย แบ่งเป็น ทหารสหรัฐราว 12,200 นาย ทหารฟิลิปปินส์ 5,400 นาย และทหารออสเตรเลีย 111 นาย ถือเป็นการซ้อมบาลิกาตันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีมากว่า 30 ปี นอกจากนั้นแล้ว การซ้อมรบในปีนี้จะมีเรือรบ เครื่องบินรบ รวมถึงขีปนาวุธแพทริออต ระบบยิงจรวด HIMARS และจรวดพิฆาตรถถัง Javelin ของสหรัฐเข้าร่วมในการฝึกด้วย ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐ
การซ้อมรบดังกล่าวจะเป็นการแสดงแสนยานุภาพครั้งล่าสุดของสหรัฐในทวีปเอเชีย ซึ่งทางฝั่งสหรัฐได้ออกมาเตือนจีนหลายครั้งถึงการที่จีนมีการกระทำที่ก้าวร้าวมากขึ้นในช่องแคบทะเลพิพาท และต่อไต้หวัน
อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังได้เสริมสร้างพันธมิตรในบริเวณอินโด-แปซิฟิกเพื่อที่จะสามารถตอบโต้จีนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องไปกับความพยายามของฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มารกอส จูเนียร์ ในการปกป้องผลประโยชน์ทางดินแดนของประเทศในทะเลจีนใต้ด้วยการส่งเสริมการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกับสหรัฐ และอนุญาตให้กองทัพสหรัฐหมุนเวียนกันเข้าพักในค่ายทหารของฟิลิปปินส์มากขึ้นภายใต้ข้อตกลงด้านการป้องกันปี 2014
พันเอกไมเคิล โลจิโค โฆษกการซ้อมรบบาลิกาตันของฟิลิปปินส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการเริ่มซ้อมรบว่า เราไม่ได้ยั่วยุใครจากการแค่ฝึกซ้อม “แท้จริงแล้ว นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของการป้องปราม การป้องปรามคือเรากีดกันไม่ให้อีกฝ่ายรุกรานเรา”
โลจิโคกล่าวอีกว่า ในการฝึกซ้อมใช้กระสุนจริงของกองทัพพันธมิตรนอกชายฝั่งเป็นครั้งแรก กองทัพของทั้งสองประเทศจะทำการร่วมโจมตีทางอากาศและใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเรือเป้าหมายขนาด 61 เมตรในน่านน้ำฟิลิปปินส์นอกชายฝั่งจังหวัดแซมบาเลส
แม้สถานที่ของการฝึกซ้อมจะหันหน้าไปทางทะเลจีนใต้และตรงข้ามกับน่านน้ำในช่องแคบไต้หวัน แต่เจ้าหน้าที่กองทัพฟิลิปปินส์กล่าวว่าการซ้อมรบในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการป้องกันชายฝั่งของประเทศและไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศใด สถานทูตสหรัฐประจำกรุงมะนิลากล่าวว่า การฝึกภาคสนามจะเป็นการทดสอบขีดความสามารถของพันธมิตรในการร่วมยิงกระสุนจริง การแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง การสื่อสารระหว่างหน่วยซ้อมรบ ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ และปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก