อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์แซงหน้าขึ้นเป็นสินค้าส่งออกที่นำรายได้เข้าประเทศสูงสุด ในรอบปีที่ผ่านมา (จากมีนาคม 2558 – มีนาคม 2559) การท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้สูงถึง 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้เกิดการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยวเป็นจำนวนกว่า 188,000 คน
นายสตีเว่น ดิ๊กสัน ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวส่งผลดีต่อประเทศนิวซีแลนด์โดยรวม และสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสอันมหาศาลที่สุขงอมและพร้อมให้เก็บเกี่ยว
“การใช้จ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยวส่งผลดีต่อหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการค้าปลีก ซุปเปอร์มาร์เก็ต สถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และที่พัก ขณะนี้ชาวนิวซีแลนด์ 1 คน ใน 13 คน ทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยสัดส่วนการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น ตามปริมาณนักท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2558 ถึงเดือนกันยายนปีนี้ นิวซีแลนด์ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 3.38 ล้านคน และกว่า 885,000 คนมาจากประเทศในเอเชีย ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวไทยรวมทั้งสิ้น 25,776 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
การท่องเที่ยวนิวซีแลนด์คาดการณ์ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในอีก 7 ปี ข้างหน้า หากอัตราการเติบโตยังอยู่ที่ระดับนี้
นายสตีเว่น ดิ๊กสัน กล่าวเสริมว่า นอกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่ายอดการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้น
“แคมเปญการท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือ แคมเปญมิดเดิ้ลเอิร์ธ และการทำตลาดผ่านดิจิทัลมีเดียช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในรอบปีที่ผ่านมาทางหน่วยงานเน้นกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวนิวซีแลนด์ในช่วงโลว์ซีซั่น เพื่อกระจายปริมาณนักท่องเที่ยวให้มีสัดส่วนที่เท่าๆ กันตลอดทั้งปี”
“เราได้ทุ่มงบประมาณการตลาดทั้งหมดที่มีเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น และผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพอใจมากเพราะปริมาณนักท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงปี 2558 และฤดูใบไม้ผลิปี 2559 มีอัตราการเติบโตสูงกว่าฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น”
นิวซีแลนด์เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุดคู่มือนำเที่ยวชื่อดัง โลนลี่ แพลนเน็ต ได้จัดอันให้ภูมิภาค Taranaki ซึ่งอยู่ห่างจากอ็อคแลนด์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 400 กิโลเมตร เป็นภูมิภาคดีที่สุดอันดับสองในการจัดอันดับ Best in Travel 2017 Top Regions นำหน้าภูมิภาคที่มีชื่อเสี่ยงระดับโลกอื่นๆ อาทิ Azores ในโปรตุเกส North Wales ในอังกฤษ และ South Australia
