สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจอินเดียเปิดเผยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ว่า มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 20 คนในอินเดียจากข้อหาไม่ยอมยืนแสดงความเคารพเพลงชาติในโรงภาพยนตร์ 2 สัปดาห์หลังจากที่ศาลสูงสุดอินเดียมีคำวินิจฉัยว่าเป็นข้อบังคับที่จำเป็นต้องทำ
ศาลสูงสุดพิพากษาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า โรงหนังทุกโรงต้องเปิดเพลงชาติก่อการฉายภาพยนตร์ทุกครั้ง และผู้ชมต้องยืนขึ้นแสดงความเคารพ สร้างความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนบางส่วนที่มองว่าข้อบังคับดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิพลเมือง
ในคำตัดสินดังกล่าว ผู้พิพากษาระบุว่า “โรงภาพยนตร์ในอินเดียจำเป็นต้องเล่นเพลงชาติก่อนการฉายหนังทุกครั้ง และผู้ที่อยู่ในโรงภาพยนตร์ทั้งหมดต้องยืนขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อเพลงชาติ”
ตำรวจเปิดเผยว่า มีผู้ถูกจับกุม 12 รายเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย จากการที่ไม่ยอมยืนเคารพธงชาติ โดยระบุว่าผู้ชมภาพยนตร์กลุ่มดังกล่าวปฏิเสธที่จะยืนหลังจากได้รับการขอร้องจากตำรวจและผู้จัดงาน
สปารยัน กุมาร ผู้บัญชาการตำรวจเมืองตริวันดรัม เมืองเอกของรัฐเกรละ เปิดเผยว่า ทั้ง 12 คนถูกจับกุมตัวแต่ได้รับการประกันตัวออกไปแล้ว นอกจากนี้ 6 ใน 12 คน ยังถูกผู้ชมในโรงหนังส่วนหนึ่งทำร้ายร่างกายหลังจากปฏิเสธที่จะยืนขึ้นด้วย แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับผู้ที่ลงมือแต่อย่างใด เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความเอาผิดในคดีนี้
ขณะที่อีก 8 คนถูก จับกุมเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่โรงหนังในเมืองเจนไน ในรัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของประเทศหลังจากที่ไม่ยอมยืนในโรงหนัง แถมยังถูกกลุ่มคนในโรงราว 20 คน ทำร้ายร่างกายด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 20 คนจะถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามรัฐบัญญัติเกียรติภูมิแห่งชาติ และอาจต้องรับโทษจำคุก 3 ปีหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง แม้ว่าศาลสูงสุดจะยังไม่ได้ระบุโทษอย่างชัดเจนในความผิดข้อหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีเพียงรัฐมหาราษฏระทางตะวันตกซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์บอลลีวู้ดเท่านั้นที่มีการเล่นเพลงชาติก่อนฉายภาพยนตร์ และการยืนขึ้นแสดงความเคารพเป็นสิ่งที่ไม่ได้บังคับว่าจำเป็นต้องทำ