ไบเดนนัด 4 ผู้แทนระดับสูงคองเกรสถกด่วน หลังเยลเลนเตือนเงินสดหมด 1 มิ.ย.
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้นัดผู้นำระดับสูงในสภาคองเกรส 4 คนมาหารือที่ทำเนียบขาวในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐออกมาระบุว่า รัฐบาลอาจขาดเงินสดในการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
ไบเดนได้โทรศัพท์หานายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน เพื่อเชิญเข้าร่วมประชุมที่ทำเนียบขาวในวันที่ 9 พฤษภาคม โดยเขายังได้เชิญนายมิทช์ แมคคอนแนล ผู้นำพรรครีพับลิกันในสภา นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภา และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ร่วมหารือพร้อมกันในวันดังกล่าว
พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเผชิญหน้ากันในรัฐสภามานานหลายเดือน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากได้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งมีการปรับลดค่าใช้จ่ายจำนวนมากตั้งแต่การรักษาพยาบาลสำหรับคนยากจนไปจนถึงรายได้ของผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ
แม้การผ่านร่างกฎหมายของสภาล่างสหรัฐจะเป็นไปในทิศทางที่สวนทางกับการบริหารงานของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเดโมแครต แต่ไบเดนเคยกล่าวอย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่เจรจาเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ แต่จะหารือเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณหลังมีการใช้จ่ายแตะเพดานหนี้ที่กำหนดไว้แต่เดิม ทั้งนี้สภาคองเกรสมักจะนำเอาเพดานหนี้ของสหรัฐมาจับคู่กับมาตรการด้านงบประมาณและการใช้จ่ายอื่นๆ
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า ไบเดนซึ่งเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าจะไม่พบกับแมคคาร์ธีเพื่อหารือเกี่ยวกับวงเงินหนี้ จะใช้โอกาสในการพบกันในวันที่ 9 พฤษภาคม เพื่อเน้นย้ำว่าสภาคองเกรสต้องดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้โดยปราศจากการตั้งเงื่อนไขใดๆ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของไบเดนมีขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ส่งหนังสือถึงสภาคองเกรสเพื่อเตือนว่า สหรัฐอาจหมดเงินสดภายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ หากคองเกรสยังล้มเหลวในการเพิ่มหรือระงับเพดานหนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้คองเกรสดำเนินการอย่างเร็วที่สุดเพื่อจัดการกับวงเงินกู้ยืมที่ 31.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
พรรครีพับลิกันเรียกร้องให้มีการลดการใช้จ่ายลงอย่างมากและปรับเปลี่ยนวาระบางอย่างของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งรวมถึงโครงการปลดหนี้เพื่อการศึกษาและการเก็บภาษีพลังงานสีเขียวแลกเปลี่ยนกับการเพิ่มเพดานหนี้
ทั้งวุฒิสภาสหรัฐที่พรรคเดโมเครตครองเสียงข้างมากยืนยันว่าจะไม่ผ่านร่างกฎหมายนี้ และประธานาธิบดีไบเดนก็ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเจรจาต่อรองได้ อย่างไรก็ดีไบเดนกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มธุรกิจ ซึ่งรวมถึงสภาหอการค้าสหรัฐเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอของพรรครีพับลิกันเพื่อไม่ให้ประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้
ทั้งนี้ หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้ขึ้นจริง ไม่เพียงแต่จะกลายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ แต่อาจจะกลายเป็นปัญหาในตลาดการเงินทั่วโลก และทำลายความเชื่อมั่นต่อสหรัฐในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก
ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนด้วยว่า การผิดนัดชำระหนี้อาจทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยและนำไปสู่การว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้สหรัฐยังจะไม่สามารถกู้ยืมเงินเพื่อจ่ายเงินเดือนให้กับข้าราชการและบุคลากรในกองทัพ เงินประกันสังคม และเงินที่เป็นภาระหน้าที่อื่นๆ ของรัฐบาลอีกด้วย รวมถึงเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล
