| ที่มา | นสพ.มติชน รายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ชาคร ศิริสุวรรณสิทธิ์ |
| เผยแพร่ |
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท “เอ็กซอน โมบิล” บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้รับการเสนอชื่อโดย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ” คนใหม่
ประสบการณ์ในการบริหารงานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาอยู่ในราว 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงความสัมพันธ์ในฐานะ “ทูตน้ำมัน” กับผู้นำชาติต่างๆ ทำให้ “ทิลเลอร์สัน”
ได้รับความไว้วางใจ ทว่าก็ถูกตั้งคำถามด้วยเช่นกันโดยเฉพาะความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
ชาติไม้เบื่อไม้เมาอันดับหนึ่งของสหรัฐ
ทิลเลอร์สัน ชาวอเมริกันจากรัฐเท็กซัส วัย 64 ปี เริ่มต้นทำงานที่ “บริษัทเอ็กซอน โมบิล” เป็นที่แรกและที่เดียว หลังเรียนจบด้านวิศวกรรมโยธา จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสออสติน เมื่อปี 1975 จนถึงปัจจุบัน
ทิลเลอร์สันก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่องจนขึ้นเป็นซีอีโอของบริษัทในปี 2006 และมีกำหนดที่จะเกษียณอายุในเดือนมีนาคม 2017 นี้
สตรีฟ โคลล์ ผู้เขียนหนังสือเจาะลึกเกี่ยวกับเอ็กซอน โมบิล ตีพิมพ์เมื่อปี 2012 ระบุว่า ชีวิตของทิลเลอร์สัน คุณพ่อลูก 4 ผู้นี้ได้รับอิทธิพลอย่างเต็มเปี่ยมจากบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ บริษัทซึ่งวางตัวเองเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีความเป็นอิสระจากรัฐบาลสหรัฐ วางนโยบายต่างประเทศเป็นของตัวเองเพื่อช่วยสร้างเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับการผลิตน้ำมัน
ทิลเลอร์สันบริหารบริษัทประหนึ่งรัฐรัฐหนึ่ง สร้างสัมพันธ์กับผู้นำต่างชาติที่มีทั้งสอดคล้องและไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ หนึ่งในนั้นคือความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีปูติน
ของรัสเซีย ที่นับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทิลเลอร์สันก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งซีอีโอได้สำเร็จ
ทิลเลอร์สันและปูตินพบกันในช่วงทศวรรษที่ 90 ขณะที่ทิลเลอร์สันดูแลโครงการขุดเจาะน้ำมันบนเกาะซาคาลิน ของรัสเซีย ความสัมพันธ์ของทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อปูตินขึ้นสู่อำนาจแทนประธานาธิบดี บอริส เยลต์ซิน ที่ลาออกในปี 1999
ผลจากความเป็นมิตรดังกล่าว “เอ็กซอน” ได้ลงนามในความร่วมมือกับบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง “รอสเนฟต์” เมื่อปี 2011 ในการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในมหาสมุทรอาร์กติกและภูมิภาคไซบีเรีย โครงการมูลค่า 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่สามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นเป็น 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับการพบแหล่งน้ำมัน ทว่าโครงการดังกล่าวต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย
ทิลเลอร์สันมีแนวคิดที่ต่อต้านมาตรการคว่ำบาตร สนับสนุนตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี)รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนข้อตกลงความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกรุงปารีส ขณะที่วิสัยทัศน์ทางการเมืองของทิลเลอร์สันในมุมที่กว้างออกไปนั้นยังไม่มีใครรู้
ทิลเลอร์สันมีโอกาสสูงที่จะได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แต่ก็ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อนในฐานะซีอีโอ
และผู้ถือหุ้นมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน “เอ็กซอน โมบิล” ด้วย
