นิโคลัส เคจ ยอมเล่นบทห่วยๆ เพื่อปลดหนี้กว่า 200 ล้าน
ชีวิตคนเรามีขึ้น มีลง จากพระเอกเจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมปี 2539 จาก ‘Leaving Las Vegas’ นิโคลัส เคจ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “60 Minutes” ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสว่า ที่ผ่านมาเขาต้องรับเล่นบทแย่ๆ ห่วยๆ ส่วนใหญ่เป็นผลงานในรูปแบบวิดีโอ เพราะต้องหาเงินใช้หนี้ 6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 204 ล้านบาท ที่เกิดจากการขาดทุนย่อยยับในการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ หวังเก็งกำไร
พระเอกรุ่นใหญ่วัย 59 เล่าว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเจ้าของปราสาทหลายหลังในเยอรมนี อังกฤษ และแมนชั่นหรูในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา และเกาะส่วนตัวในบาฮามาส การลงทุนมากเกินตัวที่ทำให้เขากลายเป็นหนี้ เมื่อเกิดปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์เมื่อช่วงปลายปี 2000s แล้วเคจถอนตัวออกมาไม่ทัน
“ผมลงทุนมากเกินไปในอสังหาริมทรัพย์ แล้วตลาดอสังหาริมทรัพย์มันพัง และผมออกมาไม่ทัน แต่ตอนนี้ผมจ่ายหนี้เหล่านั้นไปหมดแล้ว ผมมีหนี้อยู่ 6 ล้านดอลลาร์ แต่ผมไม่เคยยื่นต่อศาลขอเป็นคนล้มละลาย”
ชาริน อัลฟอนซี พิธีกรรายการ 60 Minutes ถามแขกรับเชิญคนดังว่า “นั่นต้องเป็นช่วงเวลาที่มืดมนสำหรับคุณ”
เคจตอบว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่แน่นอน แต่งานคือเทวดาผู้คุ้มครองผมเสมอ” เคจ ซึ่งเป็นหลานชายของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ผู้กำกับดัง เล่าว่า ช่วงที่ต้องทำงานหาเงินปลดหนี้ เขารับเล่นหนังปีละ 3-4 เรื่อง แต่แม้ว่าบทที่เล่นจะเป็นบทแย่ๆ “แต่ผมตั้งใจทำงานทุกครั้ง ไม่เคยทำงานแบบลวกๆ”
พระเอกเจ้าบทบาทยังเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส เมื่อปี 2562 ว่า เงินค่าตอบแทนเป็นแรงจูงใจให้เขาเลือกรับงานแต่ละเรื่อง “ผมจะไม่ลงรายละเอียดลึก หรือพูดถึงส่วนแบ่ง เปอร์เซ็นต์ แต่แน่นอนเงินเป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกรับงาน ผมจะตกลง พูดกันให้ชัดเจนจบไปเลย ไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่พูดถึงเรื่องเงินค่าตอบแทน”
พระเอกดังฮอลลีวู้ดยังบอกว่า เขาเคยทำพลาดเรื่องเงินในอดีต จากการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้เขาสูญเสียทุกสิ่งที่เคยได้ แต่งานก็คือเทวดาที่คอยคุ้มครองช่วยเหลือ ทำให้เขาสามารถปลดหนี้ได้ในที่สุด
