จับตา ‘ไบเดน’ หารือ ‘แมคคาร์ธี’ มะกันเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ 1 มิ.ย.นี้
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐออกมาเตือนอีกครั้งถึงความเสี่ยงในการที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ โดยความเป็นไปได้ที่จะเกิดสถานการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดภายในวันที่ 1 มิถุนายน
การออกมาย้ำในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งมีขึ้นก่อนหน้าการเจรจาเพื่อหาทางออกจากวิกฤตดังกล่าวระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และผู้นำระดับสูงของรัฐสภาอีก 3 คนจะเริ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 16 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐ
เยลเลนย้ำเตือนถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นตามมาหากสหรัฐหมดเงินที่จะชำระค่าใช้จ่ายรวมถึงเงินเดือนของเจ้าหน้าที่รัฐ ซ้ำยังจะกระตุ้นให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจและผู้กู้
ในจดหมายที่เยลเลนส่งถึงแมคคาร์ธีประเมินว่า กระทรวงคลังน่าจะไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันทั้งหมดของรัฐบาลได้อีกต่อไป หากสภาคองเกรสไม่ทำการเพิ่มหรือระงับวงเงินหนี้ภายในต้นเดือนมิถุนายน และอาจเร็วที่สุดคือในวันที่ 1 มิถุนายน
ด้านนายแมคคาร์ธีส่งสัญญานว่ายังมีอะไรอีกมากที่ต้องแก้ไข พร้อมย้ำว่า “คิดว่าเรายังอยู่ห่างไกลกัน สำหรับผมแล้วดูเหมือนพวกเขาไม่ต้องการข้อตกลง พวกเขาไมได้พูดอะไรจริงจัง และดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการผิดนัดชำระหนี้มากกว่าที่จะหาข้อตกลงร่วมกัน”
การหารือระหว่างไบเดนกับผู้นำสภามีขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนหน้าที่ไบเดนจะออกเดินทางไปร่วมประชุมจี7 ที่ญี่ปุุ่น ซึ่งจะทำให้สองฝ่ายมีเวลาน้อยมากในการหาทางบรรลุข้อตกลง โดยไบเดนยืนกรานว่าคองเกรสจะต้องเพิ่มวงเงินกู้ยืมโดยปราศจากเงื่อนไข และยังกล่าวหาพรรครีพับลิกันว่าจับเศรษฐกิจเป็นตัวประกันเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามแมคคาร์ธีว่าไบเดนควรไปญี่ปุ่นโดยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้หรือไม่ แมคคาร์ธีกล่าวว่า เขาเห็นว่าประธานาธิบดีสหรัฐควรมุ่งแก้ไขปัญหาของอเมริกา เพราะมันแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและสิ่งที่คุณจัดวางลำดับความสำคัญ
“พวกเขาทำมันได้ไม่ดีเลย ผมไม่เห็นความคืบหน้าเลย มันน่ากังวลอย่างมากเกี่ยวกับเวลาที่เรามีอยู่ เรามีปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข ซึ่งมันต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา แต่เราไม่เห็นความคืบหน้ามากพอ”แมคคาร์ธีกล่าว
ขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หนุนให้ปล่อยให้มีการผิดนัดชำระหนี้เว้นแต่ข้อเรียกร้องที่จะให้มีการลดค่าใช้จ่ายจะได้รับการตอบสนองทั้งหมด โดยเขาเขียนข้อความบนโซเชียลมิเดียของตนเองว่า “ทำตอนนี้ดีกว่าทำทีหลัง” อย่างไรก็ดีในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สภาคองเกรสก็ได้เพิ่มวงเงินหนี้ขึ้นถึง 3 ครั้ง
ด้านสำนักงานงบประมาณของรัฐสภาสหรัฐที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดคาดการณ์ว่า วันที่งบประมาณของสหรัฐจะหมดลงจนไม่สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีต่างๆ ทางการเงินได้น่าจะเกิดขึ้นภายในวันที่ 15 มิถุนายน
