ชาวบ้านเผย ยอดดับเซ่น ‘ไซโคลนโมคา’ ในเมียนมาส่อพุ่งหลายร้อย ความช่วยเหลือยังเข้าถึงยาก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชาวบ้านและหน่วยงานให้ความช่วยเหลือในประเทศเมียนมาระบุเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไซโคลนโมคา ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเมียนมาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจพุ่งเป็นหลายร้อยราย และเนื่องจากพายุได้สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ส่งผลให้การให้ความช่วยเหลือต้องเจอกับความยากลำบาก
พายุไซโคลนโมคาได้สร้างความเสียหายต่อหลังคาบ้านเรือนของประชาชนในรัฐยะไข่ และน้ำท่วมในเมืองซิตตเวหลังเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง โดยในรัฐยะไข่มีประชากรชาวโรฮีนจาอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยอีกกว่า 1 ล้านคนอาศัยอยู่ในค่ายในประเทศบังกลาเทศ เพื่อหนีการปราบปรามจากกองทัพเมียนมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ชาวบ้านในรัฐยะไข่ระบุว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 100 รายและยังสูญหายอีกหลายราย พร้อมกับเผยอีกว่าขณะนี้ความช่วยเหลือยังไม่ถูกส่งมาถึงพื้นที่ดังกล่าวแต่อย่างใด ชาวบ้านอีกรายหนึ่งในพื้นที่ให้ข้อมูลว่ามีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตแล้วกว่า 100 รายจากการสำรวจหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง
ด้านโฆษกของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) หรือรัฐบาลเงาของเมียนมา ได้รับการยืนยันว่า มีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตแล้วราว 400 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองซิตตเว รายงานยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวขัดแย้งกับข้อมูลจากสื่อของทางการเมียนมาที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากพายุไซโคลนโมคา 3 ราย
เจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า มีประชาชน 5.4 ล้านคนคาดว่าจะอยู่ในเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
บรรดาองค์การนอกภาครัฐระบุว่า ความเสียหายต่อระบบการสื่อสารและถนนจากพายุไซโคลนโมคา รวมถึงข้อจำกัดจากรัฐบาลทหารเมียนมาส่งผลให้ยากต่อการได้รับข้อมูลและส่งมอบความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
ด้านสื่อของทางการเมียนมายังเผยเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ด้วยว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาได้เดินทางไปสำรวจความเสียหายในเมืองซิตตเว พร้อมทั้งบริจาคเงินช่วยเหลือและออกคำสั่งในการให้ความช่วยเหลือ
