ผู้ดีเสนอแผนคุมวีซ่า น.ศ.ต่างชาติ อ้างสกัดคนย้ายถิ่น
สหราชอาณาจักรประกาศข้อจำกัดใหม่สำหรับวีซ่าของนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้ามาศึกษาต่อในประเทศ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม เพื่อต่อสู้กับจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มสูงขึ้น แม้จะยอมรับว่านักเรียนต่างชาติมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรก็ตาม
ภายใต้มาตรการวีซ่าใหม่ จะกำหนดให้นักศึกษาตั้งแต่ระดับสูงกว่าปริญญาตรี หรือที่ระบุว่าเป็นโปรแกรมวิจัยซึ่งปกติแล้วจะใช้เวลาศึกษานานกว่า 2 ปีเท่านั้น ที่จะสามารถนำผู้ติดตามเข้ามายังสหราชอาณาจักรได้ขณะที่ทำการศึกษาอยู่
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท สหราชอาณาจักรได้ระงับการเคลื่อนย้ายผู้คนจากสหภาพยุโรปโดยเสรี กระนั้นก็ดีคาดว่าจำนวนผู้อพยพจะสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากโครงการวีซ่าสำหรับผู้ที่หลบหนีจากยูเครน ฮ่องกง และอัฟกานิสถาน ขณะที่จำนวนนักเรียนที่เดินทางเข้ามาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะจากอินเดียและไนจีเรีย
กรณีดังกล่าวทำให้เกิดการโต้เถียงกันทางการเมือง รวมทั้งสร้างความแตกแยกในคณะรัฐมนตรีจนลุกลามปานปลายขึ้น ทำให้ซูเอลลา บราเวอร์แมน รัฐมนตรีกิจการภายในออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้มงวดในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น
บราเวอร์แมนย้ำว่า ข้อเสนอนี้มีความสมดุลที่เหมาะสม และน่าจะทำให้เห็นการโยกย้ายถิ่นฐานลดลงสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเมื่อปีที่ผ่านมามีการออกวีซ่าให้กับผู้ที่เดินทางมากับนักศึกษาต่างชาติประมาณ 136,000 คน เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า จาก 16,000 คน ในปี 2562
บราเวอร์แมนกล่าวว่า ในอนาคต นักศึกษาต่างชาติจะถูกป้องกันไม่ให้เปลี่ยนแปลงเส้นทางจากการศึกษาไปเป็นการทำงานก่อนที่จะจบการเล่าเรียน และจะยังมีการปรับปรุงและการบังคับใช้กฎหมายที่มากขึ้นเพื่อป้องปรามพวกไร้ยางอายที่ใช้การศึกษาเป็นเกราะกำบังในการเดินทางเข้าเมืองอีกด้วย
ข้อเสนอของบราเวอร์แมนถูกต่อต้านจากรัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีศึกษาธิการสหราชอาณาจักร ที่ให้ความสำคัญกับทักษะของแรงงานต่างชาติ และค่าธรรมเนียมสูงลิ่วที่นักศึกษาต่างชาติจ่ายให้กับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร
แม้บราเวอร์แมนจะรับว่านักศึกษาต่างชาติมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเศษฐกิจของประเทศ แต่เธอย้ำว่ามันไม่ควรต้องแลกกับความตั้งใจของรัฐบาลที่จะลดจำนวนผู้ย้ายถิ่นโดยรวม และการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมายังสหราชอาณาจักรนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีทักษะสูงและให้ประโยชน์สูงสุดกับเรา
อย่างไรก็ดี รัฐบาลไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงใดๆ กับการอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติสามารถอยู่ในสหราชอาณาจักรได้เป็นเวลา 2 ปี หลังจบการศึกษา หากพวกเขาได้งานทำในประเทศ
ท่าทีดังกล่าวของบราเวอร์แมนปลุกความไม่พอใจในหมู่สถาบันการศึกษาในสหราชอาณาจักร โดยเจมี แอร์โรวสมิธ ผู้อำนวยการ Universities UK International ซึ่งเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยอังกฤษในต่างประเทศ ตั้งข้อสงสัยว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้จำนวนการย้ายถิ่นฐานลดลงได้จริงหรือไม่ เพราะนักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่ไม่ได้เดินทางมาพร้อมกับผู้ติดตามอยู่แล้ว แต่แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลกระทบไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็คงไม่ทำการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของมหาวิทยาลัยคงต้องมีการปรึกษาหารือกันหลังจากนี้
ขณะที่โจ กราดี้ เลขาธิการใหญ่ของสหภาพมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้แทนของสถาบันวิชาการได้โจมตีกฎระเบียบใหม่ดังกล่าวว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าละอายอย่างยิ่ง สำหรับรัฐบาลที่มุ่งโจมตีผู้อพยพและบ่อนทำลายมหาวิทยาลัยของเรา
