มะกันซัดทหารจีนก้าวร้าว หลังการเผชิญหน้าในช่องแคบไต้หวัน-ทะเลจีนใต้ ปักกิ่งยันทำตามกฎหมาย
ทำเนียบขาวของสหรัฐออกมากล่าวหาจีนหลังการเผชิญหน้าทางทหารที่เป็นอันตรายกับกองทัพสหรัฐและจีนในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้เมื่อเร็วๆ นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นของกองทัพจีน และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน กองทัพเรือสหรัฐได้เผยแพร่ภาพวิดีโอของเหตุการณ์ที่สหรัฐระบุว่าเป็น “การตอบโต้ที่ไม่ปลอดภัย” ในช่องแคบไต้หวัน โดยเป็นภาพของเรือรบจีนลำหนึ่งแล่นผ่านหน้าเรือพิฆาตของสหรัฐ
กองทัพเรือสหรัฐระบุว่า เรือพิฆาต USS Chung-Hoon ของสหรัฐ และเรือฟริเกต HSMC Montreal ของแคนาดา กำลังดำเนินการแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันตามปกติเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน แต่ถูกเรือรบจีนแล่นตัดหน้าในระยะ 150 หลา หรือราว 137 เมตร
ในวิดีโอดังกล่าวได้ยินเสียงภาษาอังกฤษที่เป็นการส่งข้อความทางวิทยุไปยังเรือรบจีน เตือนถึงความพยายามที่จะจำกัดเสรีภาพในการเดินเรือ แม้ว่าข้อความที่ได้ยินจะไม่ชัดเจนนักเนื่องจากมีเสียงลมแทรก
ด้านจีนก็ออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าวทันควัน โดยนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า มาตรการที่กองทัพจีนดำเนินการนั้นสมเหตุสมผล ถูกต้องตามกฎหมาย มีความเป็นมืออาชีพและปลอดภัย
นายหวังยังกล่าวโทษสหรัฐว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาและยั่วยุก่อน ขณะที่จีนได้ดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับหลังจากนั้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการตอบคำถามระหว่างการแถลงข่าวตามปกติในวันที่ 5 มิถุนายน เกี่ยวกับภาพวิดีโอที่สหรัฐนำมาเผยแพร่ดังกล่าว ขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ในเรื่องดังกล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม เครื่องบินรบจีนลำหนึ่งได้ดำเนินการในลักษณะที่สหรัฐระบุว่า เป็นการก้าวร้าวโดยไม่จำเป็นใกล้กับเครื่องบินทหารสหรัฐเหนือน่านฟ้าสากลในทะเลจีนใต้
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า มันเป็นเรื่องน่าเศร้า และเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นโดยจีนที่เรากำลังเผชิญอยู่ และเราพร้อมที่จะรับมือกับมัน อีกไม่นานจะมีคนได้รับบาดเจ็บ เพราะมันง่ายมากที่จะเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด หรือทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น
เคอร์บีย้ำว่า สหรัฐจะยังยืนหยัดเพื่อเสรีภาพในการเดินเรือและเสรีภาพในการบินผ่าน เราต้องการได้ยินเหตุผลจากจีนถึงสิ่งที่พวกเขาทำ การสกัดกั้นทางอากาศและทางทะเลเกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นเรื่องจริงที่เราทำมัน แต่ความแตกต่างคือเรารู้ว่าเราจำเป็นต้องทำ และเราทำอย่างมืออาชีพ
“หากจีนต้องการส่งข้อความว่าสหรัฐไม่ได้รับการต้อนรับในพื้นที่ดังกล่าว หรือต้องการให้เครื่องบินและเรือของสหรัฐหยุดบินและหยุดเดินเรือ เพื่อเป็นการแสดงการสนับสนุนต่อกฎหมายระหว่างประเทศ มันจะไม่สำเร็จ และมันจะไม่เกิดขึ้น” เคอร์บีกล่าว
แม้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนจะทวีความรุนแรงขึ้นในหลายมิติ แต่วีแดนท์ พาเทล โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า คณะรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะยังแสวงหาความสัมพันธ์ที่คาดเดาได้กับจีนต่อไป
“ท่านประธานาธิบดีย้ำชัดเจนว่าเราไม่ได้แสวงหาสงครามเย็นครั้งใหม่ และการแข่งขันของเราจะต้องไม่ลุกลามไปเป็นความขัดแย้ง” พาเทลกล่าว
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่าจีนได้เปลี่ยนยุทธวีธีให้ก้าวร้าวมากขึ้น เพื่อรับมือกับสิ่งที่จีนมองว่าเป็นการรุกล้ำโดยสหรัฐและกองกำลังพันธมิตร