ฉาว! อดีตเจ้าหน้าที่ ‘ฮาร์วาร์ด’ โดนฟ้องฐานลอบค้าอวัยวะ ร่างบริจาคเพื่อการศึกษาทางแพทย์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน อ้างอิงอัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน อดีตผู้จัดการห้องเก็บศพของโรงเรียนการแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้กลายเป็นหนึ่งในห้าผู้ที่ถูกคณะลูกขุนฟ้องดำเนินคดีอาญาในข้อหาลักขโมยและลอบค้าอวัยวะมนุษย์ของผู้ที่บริจาคร่างกายให้กับสถาบันการศึกษาดังกล่าว
สำนักงานอัยการสหรัฐในแขวงกลางของรัฐเพนซิลเวเนีย ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า เซดริก ลอดจ์ วัย 55 ปี ซึ่งถูกไล่ออกจากงานเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม และจำเลยคนอื่นๆ ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการค้าอวัยวะมนุษย์ในตลาดมืดมาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2022
อัยการกล่าวว่า ลอดจ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อปี 1995 จะอนุญาตให้ผู้ซื้อที่มีศักยภาพเข้าไปยังห้องเก็บศพของโรงเรียนเพื่อตรวจสอบสภาพศพและเลือกชิ้นส่วนที่จะซื้อเป็นบางครั้ง โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่จะนำชิ้นส่วนร่างกายไปขายต่อ
อัยการยังกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ มีจำเลยคนที่หกถูกตั้งข้อหาในรัฐอาร์คันซอ ภายใต้สืบสวนเดียวกันในข้อหาขโมยชิ้นส่วนร่างกายจากห้องเก็บศพที่เธอทำงานด้วย
อย่างไรก็ดี ยังไม่ชัดเจนว่า ลอดจ์ซึ่งถูกสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) จับกุมเมื่อวันพุธ (14 มิ.ย.) ตามรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ ABC ของสหรัฐ หรือจำเลยอื่นๆ ในคดีซึ่งรวมถึงภรรยาของลอดจ์ มีตัวแทนทางกฎหมายหรือไม่
“อาชญากรรมบางอย่างยากที่จะเข้าใจ” เจอราร์ด คารัม อัยการสหรัฐกล่าวในถ้อยแถลง และว่า “การลักขโมยและการค้ามนุษย์ยังคงเป็นการทำลายพื้นฐานของความเป็นมนุษย์”
คารัมกล่าวอีกว่า ผู้ที่ชิ้นส่วนอวัยวะถูกลักลอบนำไปขายเต็มใจที่จะบริจาคร่างกายของตนเพื่อใช้ในการศึกษาทางการแพทย์ และว่าโรงเรียนการแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประสานงานกับหน่วยงานสืบสวน
จอร์จ ดาเลย์ คณบดีโรงเรียนการแพทย์นี้ระบุผ่านแถลงการณ์เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนว่า รู้สึกใจหายเมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนนี้ขึ้นในมหาวิทยาลัย และว่าโรงเรียนการแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งทราบเรื่องดังกล่าวครั้งแรกในเดือนมีนาคม กำลังตรวจสอบบันทึกต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บันทึกที่แสดงเวลาซึ่งร่างของผู้บริจาคถูกส่งไปเผาและช่วงเวลาที่ลอดจ์ทำงานมหาวิทยาลัย ในความพยายามระบุว่าร่างกายของผู้บริจาคส่วนไหนที่อาจถูกลักลอบค้ามนุษย์
