เลขาฯรมว.กต.ย้ำ หารือเมียนมา 9 ชาติ เป็นผลประโยชน์ประเทศ

เลขาฯรมว.กต.ย้ำ หารือเมียนมา 9 ชาติ เป็นผลประโยชน์ประเทศ

นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “ผลประโยชน์ของประเทศ” ความว่า

“วันนี้ขอพูดเรื่องการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับเมียนมา. ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน ที่ผ่านมา

การจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการคือ informal meetion  เป็นการประชุมที่ไม่อยู่ในกรอบของอาเซียน และไทยได้เคยแจ้งอาเซียนทราบมาก่อนแล้วว่า ไทยจะจัดให้มีการประชุมที่เรียกว่า track  1.5  ไม่เปฺ็นทางการ. และไทยเคยจัดประชุมเช่นนี้มาก่อนหน้านี้สองครั้งแล้ว. และรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียก็เคยมาร่วมประชุมดังกล่าว

Advertisement

ไม่ได้เป็นการเริ่มนโยบายใหม่. แต่ทำเรื่องที่ริเริ่มไว้และค้างคาอยู่ให้เสร็จ. ปูทางให้รัฐบาลใหม่ได้เดินบนกลีบกุหลาบ ด้วยการเมืองระหว่างประเทศที่สร้างสรรค์ ไม่เป็นศัตรูกับใคร. และไม่ผลักมิตรเป็นศัตรู

การสู้รบในเมียนมาเริ่มรุนแรง  มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบเข้ามาในไทยและอินเดียจำนวนมาก. มีการลักลอบส่งอาวุธให้กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลเมียนมา. จนจะกลายเป็นการสร้างประชาธิปไตยบนซากศพของเพื่อนมนุษย์

หากการสู้รบขยายตัว. จะตามมาด้วยการปิดด่านชายแดนที่กระทบต่อการค้าตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ. คนไทยต้องเดือดร้อนด้วย

Advertisement

ถ้ารัฐบาลใหม่ไม่ชอบแนวทางนี้. ไม่อยากผูกสัมพันธ์อย่างสร้างสรรกับเมียนมา  อยากกดดัน. อยาก isolate เมียนมา อยากแซงชั่นเมียนมาอย่างที่ตะวันตกต้องการ. ก็เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลใหม่

การจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการเช่นนี้  เป็นการประชุมที่ไม่มีประธานในการประชุม. ไม่มีวาระการประชุม  ลักษณะการประชุมเป็นแบบฟรีสไตล์. ใครใคร่พูดอะไร. พูด. ใครใคร่ถาม ถาม ในบรรยากาศสบายๆ. ไม่มีโต๊ะประชุม. ไม่มีการกดดันกัน

การประชุมในครั้งนี้มีประเทศต่างๆส่งผู้แทนมาร่วมประชุม 9 ประเทศ. มีทูตพิเศษจากจีนและอินเดียมาร่วมในการประชุมด้วยในฐานะเพื่อนของเมียนมา Myanmar Friends

ยืนยันว่าการประชุมครั้งนี้  ไม่ใช่การประชุมในกรอบของอาเซียน.และไม่ใช่การจัดประชุมเพื่อตัดหน้าหรือชิงดีชิงเด่นกับใคร. เป็นความพยายามของไทยในการแสวงหาหนทางและโอกาสในการช่วยแก้ปัญหาของเมียนมา และดึงเมียนมาให้กลับมาสู่ครอบครัวอาเซียน. เป็นการแสวงหาทางออกทางการเมืองที่ต้องแยกออกจากการทหารและการสู้รบ

การประชุมในลักษณะนี้เป็นเสมือนความพยายามในการสร้างสะพานจากทั้งสองฝั่งแม่น้ำ. ต้องหาจุดร่วม จุดที่ตั้งของตอม่อสะพานจากทั้งสองฝั่งให้ตรงกัน. เพื่อสะพานจะสามารถบรรจบตรงกันได้กลางแม่น้ำโดยไม่คลาดเคลื่อน

ความพยายามของไทยในการผูกสัมพันธ์. Engagement คือ ทุกฝ่ายต้องได้มีโอกาสพูด. อธิบายข้อจำกัด  ซึ่งจะเกิดความไว้วางใจ ความเชื่อใจ Trust.

และมีสัญญาณที่ดีมากจากการประชุมในครั้งนี้

ผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการกีดกันเมียนมาออกไปจากครอบครัวอาเซียน. ต้องไม่ชี้หน้าใครว่า.”มึงทำผิด  ต้องทำอย่างกู. กูทำถูก” ต้องไม่สั่งให้ใครทำอะไร. เพราะทุกประเทศมีอธิปไตยของตนเอง   ต้องไม่เอามาตรฐานของตัวเองไปตัดสินใคร  มิเช่นนั้น ความขัดแย้งและสงครามจะไม่สิ้นสุด.”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image