มะกันคว่ำบาตรเมียนมาชุดใหม่ พุ่งเป้า ‘กลาโหม-2 ธนาคารรัฐ’
กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ล่าสุดต่อเมียนมา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นการคว่ำบาตรกระทรวงกลาโหมเมียนมา และธนาคารอีก 2 แห่ง ที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้เป็นช่องทางในการซื้ออาวุธและสินค้าจากต่างประเทศ
ถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า กองทัพเมียนมาได้อาศัยแหล่งข้อมูลจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานของรัสเซียที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร ในการซื้อและนำเข้าอาวุธ อุปกรณ์ และวัตถุดิบในการผลิตอาวุธ เพื่อสนับสนุนการปราบปรามอย่างเหี้ยมโหด
สหรัฐกล่าวหากระทรวงกลาโหมเมียนมาว่าได้นำเข้าสินค้าและสิ่งของมูลค่าอย่างน้อย 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารยึดอำนาจโดยผู้นำกองทัพในปี 2564
ธนาคาร 2 แห่งของเมียนมาที่โดนสหรัฐคว่ำบาตรล่าสุดคือ ธนาคารการค้าต่างประเทศของเมียนมาและธนาคารเพื่อการลงทุนและการพาณิชย์ของเมียนมา ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ ที่กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวหาว่าเปิดให้รัฐวิสาหกิจเมียนมาที่สร้างร้ายได้ ซึ่งรวมถึงบริษัทน้ำมันและก๊าซของเมียนมามีช่องทางในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้ โดยธนาคารทั้งสองแห่งรับและโอนเงินตราต่างประเทศให้กับรัฐบาลเมียนมา
ไบรอัน เนลสัน ปลัดกระทรวงคลังสหรัฐด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน ระบุในถ้อยแถลงว่า รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดระหว่างประเทศเพื่อนำเข้าอาวุธและยุทโธปกรณ์ รวมทั้งจากหน่วยงานรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร เพื่อเดินหน้าก่อความรุนแรงและกดขี่ข่มเหง
นายซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวก่อนการประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐว่า ไม่มีความกังวลใดๆ ในเรื่องนี้ เพราะเมียนมาเคยเผชิญกับการคว่ำบาตรมาก่อน และพวกเขาจะต้องเผชิญกับความสูญเสียหากมีธนาคารของรัฐใหม่เกิดขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความล่าช้าที่ไม่จำเป็น ขณะที่เรากำลังเดินไปสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรค
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การคว่ำบาตรธนาคารต่างๆ แม้จะไม่ได้มีเป้าหมายที่โครงการผลิตก๊าซของเมียนมาที่เป็นแหล่งรายได้จำนวนมากของรัฐบาลทหาร แต่อาจส่งผลกระทบกับความสามารถของรัฐบาลในการหาเงินทุนที่จะนำไปใช้ในการทำสงครามกับกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มติดอาวุธ
