ผู้เชี่ยวชาญเผย เรือดำน้ำไททัน ปฏิเสธการตรวจสอบ-อดีตพนง.เคยแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า โอเชียนเกท เอ็กซ์เพดิชั่นส์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการของเรือดำน้ำไททัน ที่หายไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ระหว่างชมซากเรือไททานิก ได้ปฏิเสธในการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
วิล โคห์เนน จากสมาคมเทคโนโลยีใต้ทะเล ได้เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า โอเชียนเกท เอ็กซ์เพดิชั่นส์ ไม่ได้ทำตามบรรทัดฐานของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางทะเลมาตั้งแต่แรก เนื่องจากทางบริษัทปฏิเสธที่จะนำเรือ Titan เข้ารับการตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดโดยสมัครใจ
โคห์เนน เป็นประธานคณะกรรมการเรือดำน้ำของกลุ่ม ได้เปิดเผยว่า เขาเคยได้บอกกับสต็อกตัน รัช เจ้าของโอเชียนเกทถึงความกังวลของสังคม
“เราไม่เห็นด้วย” โคห์เนนกล่าว และว่า เขาได้ร่างจดหมายให้กับรัช สรุปความกังวลต่างๆ ตั้งแต่ปี 2561
“คุณกำลังรับความเสี่ยงจำนวนมาก และความเสี่ยงที่คุณรับอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทั้งหมด” โคห์เนนระบุ และว่า เรามีประวัติด้านความปลอดภัยที่ดีมาก และหากมีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้น มันจะส่งผลกระทบอย่างมาก
โคห์เนนระบุอีกว่า เราบอกกับเขาว่า เขาควรพิจารณาที่จะให้ตรวจมัน ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัย
“ในโลกนี้มีเรือดำน้ำอยู่ 10 ลำ ที่สามารถดำน้ำได้ลึกกว่า 12,000 ฟุต ทุกลำได้รับการรับรอง ยกเว้นเรือดำน้ำของโอเชียนเกท”
ซีเอ็นเอ็น ยังรายงานว่าอีก อดีตพนักงานของโอเชียนเกท 2 คน ได้เคยแสดงความกังวลต่อความปลอดภัยของเรือ ทั้งความหนาของตัวถัง ก่อนที่บริษัทจะเลิกจ้างเขา
เดวิด ล็อคริดจ์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของบริษัท อ้างในการยื่นฟ้องต่อศาลว่าเขาถูกเลิกจ้างโดยมิชอบในปี 2018 เนื่องจากแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย และการทดสอบเรือไททันที่หายไปลำดังกล่าว
ล็อคริดจ์ ทำงานให้กับโอเชียนเกทในปี 2558 และกลายเป็นพนักงานระหว่างปี 2559-2561 ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาล บริษัทเลิกจ้างเขา และยื่นฟ้องล็อคริดจ์ในปี 2561 โดยอ้างว่า เขาได้แชร์ข้อมูลที่เป็นความลับ ยักยอกความลับทางการค้า และใช้บริษัทเพื่อช่วยเหลือด้านการย้ายถิ่นฐาน จากนั้นจึงสร้างเหตุผลที่จะถูกไล่ออก ทั้งระบุว่า ล็อคริดจ์ไม่ใช่วิศวกร แต่เรียกว่าเป็นนักประดาน้ำ
ล็อคริดจ์กล่าวว่า เขาได้รับมอบหมายจาก สต็อกตัน รัช เพื่อตรวจสอบเรือดำน้ำ โดยได้แสดงความกังวลว่า ไม่มีการทดสอบแบบไม่ทำลายบนตัวเรือไททัน เพื่อตรวจหาการหลุดล่อน ความพรุน และช่องว่างของการยึดเกาะที่เพียงพอ และได้รับแจ้งว่าไม่มีอุปกรณ์ที่เพียงพอ
ก่อนที่คดีดังกล่าวจะได้รับการตัดสินและยกฟ้องในเดือนพฤศจิกายน 2018 โดยไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขของข้อตกลง และไม่สามารถติดต่อล็อคริดจ์มาแสดงความเห็นได้
ขณะที่อดีตพนักงานอีกคนของโอเชียนเกททำงานสั้นๆ ในบริษัทช่วงเดียวกัน ก็มีความกังวลเกี่ยวกับถังคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวถังถูกสร้างขึ้นมาให้มีความหนาเพียงแค่ 5 นิ้วเท่านั้น
โดยอดีตพนักงานรายนี้ทำงานในบริษัทเป็นเวลาเพียง 2 เดือนครึ่ง โดยเป็นช่างเทคนิคปฏิบัติการ เขายังระบุด้วยว่า มีความกังวลโดยพนักงานในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่โอเชียนเกท และรัช กลายเป็นฝ่ายตั้งรับและเลี่ยงที่จะตอบคำถามในระหว่างประชุมกับพนักงาน เมื่อพนักงานได้แจ้งข้อกังวลกับรัชว่าโอเชียนเกทอาจจะละเมิดกฎหมายของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ ซีอีโอก็เลิกจ้างทันที เขาจึงได้ลาออก