‘ดอน’ พบ ‘ออง ซาน ซูจี’ คนแรกรอบกว่า 2 ปี ย้ำสนับสนุนการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวมติชนรายงานว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน หรืออาเซียนรีทรีต ในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่โรงแรมแชงกรีลา ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า ความขัดแย้งในเมียนมาในปัจจุบันมีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือความขัดแย้งทางการเมืองและความขัดแย้งทางอาวุธ การปะทะกันทางอาวุธดำเนินมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เมียนมาได้รับเอกราชในปี 2491 ในทางกลับกัน ความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มต้นในปี 2564 ด้วยการเข้ายึดอำนาจของทหาร เนื่องจากความแตกต่างทางการเมืองที่เข้ากันไม่ได้ระหว่างกองทัพและผู้นำพลเรือน
นายดอนกล่าวว่า ความขัดแย้งทั้งสองประเภทต้องแยกออกจากกัน เพื่อให้สามารถกำหนดวิธีแก้ปัญหาทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพได้ โดยในความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักเพียง 2 กลุ่ม คือผู้นำทางทหารและผู้นำพลเรือน อย่างอื่นถือเป็นเรื่องรองหมด
“หากเราสามารถเริ่มต้นด้วยความพยายามที่เป็นกลางในการเชื่อมความแตกต่างระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักสองราย เราน่าจะสามารถหาทางออกทางการเมืองที่ใช้การได้สำหรับความขัดแย้งในเมียนมาในปัจจุบัน จากนั้นก็น่าจะสามารถหาวิธีแก้ปัญหาที่เหลือเกี่ยวกับความขัดแย้งทางอาวุธในระยะยาวให้บรรลุผลได้”
จากนั้นนายดอนโดยได้บรรยายสรุปถึงการเยือนเมียนมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งได้พบกับนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้แทนรัฐบาลต่างชาติได้พบปะพูดคุยกับซูจี นับตั้งแต่เกิดเหตุยึดอำนาจในเมียนมามานานกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงปัจจุบัน
นายดอนกล่าวว่า การพบปะกับซูจีในครั้งนี้มาจากความเห็นชอบจากสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) และความเห็นพ้องของซูจีเอง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และแสดงถึงการเริ่มต้นของกระบวนการสันติภาพทางการเมืองครั้งใหม่สำหรับเมียนมา อาเซียนจะต้องทำงานมากขึ้นภายใต้การดำเนินการโดยสุจริตใจระหว่างผู้เล่นหลักทั้งสองฝ่าย เพื่อให้บรรลุข้อตกลงทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน
นายดอนกล่าวว่า การเยือนที่เกิดขึ้นเน้นถึงเงื่อนไขที่จำเป็นที่สำคัญที่สุดในความพยายามสร้างสันติภาพนั่นคือความไว้วางใจ และความไว้วางใจเป็นสิ่งที่เราต้องสร้างมันขึ้นมา ความพยายามใดๆ ที่จะนำ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ทั้งหมดมารวมกันในการเจรจาโดยปราศจากความไว้วางใจ เมื่อขาดความไว้วางใจระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมันอาจจะดำรงอยู่ได้ไม่นาน และกระบวนการสันติภาพอาจไม่มีวันเกิดขึ้นจริง
นายดอนกล่าวอีกว่า ซูจีกล่าวว่าการพูดคุยที่ยาวนานกว่า 1 ชั่วโมงว่าเป็นการหารือที่มีความสุข และเห็นว่าซูจีมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจและเธอก็ยืนยันเช่นนั้น เธอบอกว่าที่อยู่อาศัยของเธอใช้ได้ โดยนายดอนได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นทั้งในระดับชาติและระดับโลกรวมถึงสงครามในยูเครน ซึ่งซูจีบอกว่าเธอไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์หรือดูโทรทัศน์ที่ SAC ทำ เพราะเธอไม่คิดว่าข้อมูลจะเป็นกลาง
“อย่างไรก็ดี ซูจีกล่าวอย่างหนักแน่นว่าเธอสนับสนุนการหารือโดยไม่มีการตั้งเงื่อนไขล่วงหน้า และในความเป็นจริงแล้วเงื่อนไขเบื้องต้นควรเป็นส่วนหนึ่งของการหารือ โดยเธอยังแสดงความหวังว่าจะได้พบกันอีก” นายดอนกล่าว
รองนายกฯและ รมว.กต.กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยืนยันว่าลำดับความสำคัญของอาเซียนในการอำนวยความสะดวกในกระบวนการสันติภาพต้องเริ่มต้นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งสองนี้ และแนวทางควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่น เพื่อให้อาเซียนยังคงสถานะคนกลางที่ไว้ใจได้
อ่านข่าวต่างประเทศอื่นๆที่น่าสนใจ
จับตา! ดอนเตรียมสรุปการเยือนเมียนมา ต่อที่ประชุมอาเซียนรีทรีตวันนี้
