‘ลอยด์ ออสติน’ คาด ทหารต้องโทษมะกันจงใจข้ามพรมแดนเข้าโสมเหนือ
หลังมีรายงานข่าวว่า มีชายสัญชาติอเมริกันได้ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสองเกาหลีและถูกทางการเกาหลีเหนือควบคุมตัวไว้ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ต่อมามีรายงานว่าชายคนดังกล่าวเป็นทหารสหรัฐชื่อพลทหารทราวิส ที. คิง ซึ่งเข้าร่วมกับกองทัพในปี 2564 และกำลังอยู่ระหว่างถูกลงโทษทางวินัย
นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า ระหว่างการเดินชมพื้นที่ความมั่นคงร่วม (JSA) บริเวณพื้นที่ชายแดนสองเกาหลี คิงผู้นี้น่าจะจงใจข้ามเข้าไปยังเกาหลีเหนือ และเป็นการดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต
“เราเชื่อว่าเขาอยู่ในการควบคุมตัวของเกาหลีเหนือ และเราจะติดตามและตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด รวมถึงทำการแจ้งให้ญาติสนิทของเขาทราบต่อไป” ออสตินกล่าว
เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า พลทหารคิงได้เดินทางไปชมหมู่บ้านปันมุนจอมในเขต JSA ร่วมกับนักท่องเที่ยว จากนั้นเขาก็ได้ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร ซึ่งแยกเกาหลีออกเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดลงในปี 2496
พันเอกไอแซก เทย์เลอร์ โฆษกของกองกำลังสหรัฐในเกาหลี กล่าวว่า กำลังทำงานร่วมกับกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ เพื่อแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสหรัฐพากันงุนงงว่าเหตุใดทหารสหรัฐจึงได้หลบหนีเข้าไปยังเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พวกเขามองว่าน่าประหลาด
เจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 นายระบุว่า พลทหารคิงเพิ่งเสร็จสิ้นการถูกคุมขังในเกาหลีใต้เป็นเวลา 2 เดือนในข้อหาละเมิดที่ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียด และถูกกองทัพนำตัวไปส่งยังสนามบินเพื่อให้เดินทางกลับไปยังต้นสังกัดในสหรัฐ
คิงได้ผ่านการตรวจไปยังประตูเครื่องบินเพียงลำพังแล้ว แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตามเขาตัดสินใจจะหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่า มีทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวไปยังพรมแดนระหว่างสองเกาหลีที่สนามบิน ที่คิงดูเหมือนจะซื้อทัวร์ดังกล่าวจนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น
เจ้าหน้าที่สหรัฐย้ำว่า คิงกำลังจะต้องเจอกับการลงโทษทางวินัยโดยกองทัพสหรัฐ แต่เขาไม่ได้อยู่ในระหว่างการถูกควบคุมตัวเมื่อตัดสินใจหลบหนี
กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุว่า ทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวเดินทางไปยังหมู่บ้านปันมุนจอมและเขตปลอดทหารระหว่างสองเกาหลีทั้งหมดถูกยกเลิกโดยไม่มีกำหนด ตามคำร้องขอของกองบัญชาการสหประชาชาติที่ดูแลความมั่นคงในพื้นที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นับจนถึงขณะนี้เกาหลีเหนือยังไม่ออกมาแสดงท่าทีใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่ชัดเจนว่าทางการเกาหลีเหนือจะควบคุมตัวพลทหารสหรัฐรายนี้ไว้นานเท่าใด แต่นักวิเคราะห์มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่มีความสำคัญสำหรับเกาหลีเหนือ
