ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ สั่งประหารชีวิตผู้คนไปแล้ว 340 ราย นับตั้งแต่ขึ้นครองอำนาจเมื่อปี 2554 เป็นต้นมา
ในรายงานเรื่อง “การปกครองที่ผิดพลาดในการครองอำนาจ 5 ปีของคิม จอง อึน” ของสถาบันยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ องค์กรทางวิชาการของเกาหลีใต้ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ระบุให้รายละเอียดว่า ผู้นำเกาหลีเหนือใช้การประหารชีวิตเพื่อยึดกุมอำนาจให้แน่นหนาขึ้นอย่างไร
รายงานระบุว่า ในจำนวนผู้ที่ถูกประหารชีวิตนั้น ราว 140 รายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล นายทหารระดับสูง และแกนนำพรรคแรงงานเกาหลี
นายบรูซ เบนเน็ตต์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านกลาโหมของบริษัทแรนด์ คอร์ปอเรชั่น ระบุว่านายคิมได้แสดงให้เห็นถึงระดับความโหดเหี้ยมอำมหิตแบบสุดโต่งมาตั้งแต่ปี 2554 โดยกล่าวว่า “ในช่วงเวลาการปกครองประเทศ 5 ปี นายคิมได้ปลดรัฐมนตรีกลาโหมของตนเอง 5 ครั้ง ในขณะที่นายคิม จอง อิล พ่อของเขา เปลี่ยนรัฐมนตรีกลาโหมเพียงแค่ 3 ครั้งในรอบ 17 ปี และการเปลี่ยน 2 ครั้งเป็นเพราะคนเดิมเสียชีวิตเนื่องจากอายุมากแล้ว”
ข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้นายคิม ยอง จิน รัฐมนตรีศึกษาเกาหลีเหนือถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าหลังจากแสดงออกให้เห็นถึง “ทัศนคติที่ไม่ดี” ต่อหน้าสมัชชาประชาชนสูงสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ย้อนไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 นายคิมสั่งประหารชีวิตนายฮยอน ยอง ชอล ด้วยปืนต่อต้านอากาศยานที่โรงเรียนทหารแห่งหนึ่งในกรุงเปียงยาง ต่อหน้าสักขีพยานจำนวนมาก รวมถึงครอบครัวของนายฮยอนด้วย
2 ปีก่อนหน้านั้น ลุงของนายคิมถูกสั่งประหารชีวิตด้วยสาเหตุที่สื่อของทางการเกาหลีเหนือระบุว่าพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาล
นายโค ซึง คยอน ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยฮาวายแปซิฟิก ระบุว่านายคิมมีแนวโน้มที่จะค่อนข้างสุดโต่งในการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เขาสัมผัสได้ เนื่องจากเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ แต่อันตรายที่สำคัญก็คือ ไม่มีคนใกล้ชิดที่กล้าห้ามปรามยับยั้ง และด้วยความที่ต้องแบกรับความคาดหวังในการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เขาต้องแสดงให้เห็นแกนนำระดับสูงรายอื่นๆ ทั้งในรัฐบาล กองทัพและในพรรค เห็นว่าใครเป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริง