เวียดนาม ต่อรองขึ้นราคาข้าว หลังอินเดียแบนส่งออก
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวเปิดเผยว่า ผู้ส่งออกข้าวของเวียดนามได้เจรจาต่อรองในการปรับราคาข้าวเพิ่มขึ้นสำหรับข้าวประมาณ 500,000 ตัน ที่เวียดนามจะทำการส่งออก ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เป็นการยืนยันได้เป็นครั้งแรกว่าราคาข้าวในตลาดพุ่งสูงขึ้น หลังจากอินเดียสั่งแบนการส่งออกข้าวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นในรอบ 15 ปี
ดยผู้นำเข้าต้องยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสำหรับการซื้อข้าวจากอินเดีย ที่เป็นหนึ่งในข้าวที่มีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก ท่ามกลางอุปทานที่ตึงตัว
ทั้งนี้ประเทศผู้นำเข้าข้าวอย่างอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ได้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกระหว่าง 30-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อข้าวหนึ่งตัน จากระดับที่ทำความตกลงซื้อขายข้าวหอมจากเวียดนาม ที่เซ็นสัญญาซื้อขายไว้ที่ 550 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นระดับราคาก่อนที่ทางการอินเดียจะประกาศห้ามการส่งออกข้าวของตนเองในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ผลพวงจากมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ค้าข้าวมีรายได้จากการขายข้าวเพิ่มขึ้นประมาณ 15-40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับราคาข้าวที่ตกลงกันไว้ก่อนที่อินเดียจะออกมาตรการห้ามการส่งออก
ผู้ค้ารายหนึ่งจากบริษัทการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ผู้ซื้อตกลงที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้นสำหรับข้าวในบางรายการที่จะส่งมอบในเดือนสิงหาคมนี้ โดยมีข้าวประมาณ 200,000 ตัน ที่ได้มีการจัดส่งในเดือนนี้ ขณะที่อีก 300,000 ตัน ที่รอการจัดส่งอยู่ที่ท่าเรือของเวียดนาม
ราคาข้าวในตลาดโลกได้ถีบตัวขึ้นไปแล้วราว 20 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังจากอินเดีย ซึ่งส่งออกข้าวคิดเป็นสัดส่วน 40 เปอร์เซ็นต์ของอุปทานโลก สั่งห้ามการส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติเมื่อเดือนที่แล้ว การตัดสินใจดังกล่าวของอินเดียได้ส่งผลให้อุปทานข้าวในตลาดโลกลดลงไป 10 ล้านตัน หรือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์
