โรฮีนจาฮือประท้วงในบังกลาเทศ ร้องกลับเมียนมาอย่างปลอดภัย งบถูกตัดเหลือคนละ 280 บาทต่อเดือน
ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหลายพันคนรวมตัวกันที่ค่ายผู้อพยพในบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เพื่อเรียกร้องให้มีการส่งตัวพวกเขากลับไปยังเมียนมาโดยปลอดภัย ในวันครบรอบ 6 ปีของความรุนแรงที่ทำให้พวกเขาต้องทิ้งบ้านเรือนตนเอง
ปัจจุบันบังกลาเทศเป็นบ้านของผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาราว 1 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่หนีการปราบปรามของกองทัพเมียนมาในปี 2560 ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ภายใต้การสืบสวนสอบสวนในฐานะคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
ความขับข้องใจแพร่ไปทั่วในหมู่ผู้ลี้ภัยเนื่องจากการไร้กฎหมายที่เกิดขึ้นในค่ายที่พวกเขาอาศัยอยู่ ควบคู่กับงบประมาณการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศที่ถูกตัด รวมถึงการขาดความคืบหน้าในการทำข้อตกลงเพื่อส่งตัวกลับประเทศเมียนมา
การประท้วงเกิดขึ้นในค่ายผู้ลี้ภัยโรฮีนจาหลายครั้ง แม้ว่าจะเกิดฝนตกในช่วงฤดูมรสุม พวกเขาได้เรียกร้องขอสิทธิการเป็นพลเมืองจากเมียนมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องใหม่และเป็นเรื่องที่พวกเขาเห็นว่าตนเองมีสิทธิอยู่แล้วโดยชอบธรรม แต่ขณะนี้พวกเขากำลังพยายามลบชาวโรฮีนจาออกจากประวัติศาสตร์เมียนมา
ขณะที่การอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศก็ไม่มีความมั่นคงใดๆ และยิ่งทำให้พวกเขามีแต่ความขับข้องใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผันผ่านไป ซึ่งเป็นเหตุให้ชาวโรฮีนจาในค่ายผู้ลี้ภัยจึงต้องการเดินทางกลับเมียนมาอย่างมีสิทธิเต็มที่
การถูกตัดงบประมาณช่วยเหลือบีบให้โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติต้องลดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ค่ายผู้ลี้ภัยโรฮีนจาลงอย่างมากในปีนี้ ทำให้ผู้ลี้ภัยได้รับการปันส่วนอยู่ที่เพียงคนละ 8 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 280 บาทต่อคนต่อเดือน
ภาวะทุพโภชนาการกำลังแพร่ระบาดในหมู่ผู้ลี้ภัยโรฮีนจา โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า การถูกตัดงบประมาณในการช่วยเหลือยิ่งซ้ำเติมผู้ลี้ภัยเหล่านี้ให้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้นไปอีก
นอกจากนี้แล้วความรุนแรงก็ยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องในค่ายผู้ลี้ภัยหลายๆ แห่ง ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มติดอาวุธ และยังถูกใช้เป็นที่ตั้งของเครือข่ายค้ายาเสพติดในภูมิภาคอีกด้วย
