ลิเบียสั่งสอบเหตุ 2 เขื่อนแตก ยอดดับทะลุ 1.1 หมื่น
ทางการลิเบียสั่งสอบสวนหลังเขื่อน 2 แห่งแตกเมื่อสัปดาห์ก่อน จนทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่พัดถล่มเมืองเดอร์นา ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล จนพื้นที่ 1 ใน 4 ของเมืองถูกมวลน้ำกวาดทำลาย ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 11,000 คน
อย่างไรก็ดีไม่ชัดเจนว่าการสอบสวนจะดำเนินการไปในลักษณะใดในประเทศที่เกิดความแตกแยกวุ่นวายจนมีรัฐบาล 2 ชุดที่เป็นอิสระต่อกัน นับตั้งแต่เกิดการลุกฮือที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เพื่อโค่นล้มนายโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการที่ปกครองลิเบียมาอย่างยาวนานในปี 2554
นับตั้งแต่เกิดรัฐบาลลิเบียตะวันออกและลิเบียตะวันตก โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในประเทศถูกละเลย และยิ่งถูกซ้ำเติมด้วยผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่รุนแรง จนทำให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้วบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นตามมา
สภาเสี้ยววงเดือนแดงของลิเบียยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ 11,300 ราย และมีผู้สูญหายอีกมากกว่า 10,000 คน โดยทีมกู้ภัยยังคงเร่งขุดดินโคลนและค้นหาตามซากอาคาร เพื่อหาร่างผู้เสียชีวิตและผู้ที่ยังอาจจะรอดชีวิต แม้จะมีความหวังไม่มากนักก็ตามที
แคลร์ นิโคเลต์ หัวหน้าฝ่ายฉุกเฉินขององค์กรแพทย์ไร้พรมแดน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพจำนวนมากเมื่อวันที่ 15 กันยายน และยังคงค้นหาต่อไป เพราะทะเลยังคงพัดพาร่างของผู้เสียชีวิตกลับขึ้นสู่ฝั่ง นอกจากนี้ยังต้องการความช่วยเหลือที่จำเป็นและการสนับสนุนด้านจิตใจสำหรับผู้ที่สูญเสียคนในครอบครัว ขณะที่การฝังศพยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ แต่ก็มีความคืบหน้าในการประสานงานด้านการค้นหาและช่วยเหลือ รวมถึงการแจกจ่ายความช่วยเหลือด้วย
