ประท้วงต้านอิสราเอลลามทั่วต.อ.กลาง ซัดชาติต.ต.หนุนอิสราเอล
กลุ่มผู้ประท้วงจัดการชุมนุมต่อต้านอิสราเอลในหลายประเทศทั่วตะวันออกกลางเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุระเบิดโรงพยาบาลในฉนวนกาซา ซึ่งทำให้มีซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 รายและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 300 คน
หลังเหตุสลดใจดังกล่าว เกิดเสียงคนด่าประณามไปทั่วภูมิภาค ขณะที่ฝูงชนที่โกรธแค้นได้ออกมารวมตัวกัน พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและปาเลสไตน์เร่งระดมพล
กองทัพอิสราเอลได้ยิงวัยรุ่นชาวปาเลสไตน์สองคนเสียชีวิตใกล้กับเมืองรามัลเลาะห์ในเขตเวสต์แบงค์ ระหว่างการเดินขบวนประท้วงต่อต้านเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลอัล-อะห์ลีในฉนวนกาซา
ในเลบานอน กองกำลังความมั่นคงได้ยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำเข้าใส่ผู้ประท้วง ขณะที่การประท้วงใกล้กับสถานทูตสหรัฐทางตอนเหนือของกรุงเบรุตได้แปรสภาพเป็นความรุนแรง โดยผู้ประท้วงชาวเลบานอนตะโกนด่าสหรัฐว่า “อเมริกาคือปีศาจที่แท้จริง เพราะสนับสนุนอิสราเอล และคนทั้งโลกก็ตาบอด คุณไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานหรือไง”
ในอิหร่านการเดินขบวนที่ได้รับการสนุนจากรัฐถูกจัดขึ้นทั่วประเทศ โดยทั้งจากกลุ่มที่สนับสนุนฮามาส และจากกลุ่มที่สาบานตนเป็นศัตรูกับอิสราเอล โดยผู้ประท้วงถือป้ายขับไล่สหรัฐและอิสราเอลให้ไปตายเสีย
ขณะที่ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน กล่าวสุนทรพจน์ทางสถานีโทรทัศน์ว่า เลือดทุกหยดของชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารในสงครามครั้งนี้ กำลังนำระบอบไซออนิสต์เข้าใกล้ความหายนะ
การประท้วงยังเกิดขึ้นในอิรัก จอร์แดน ตูนิเซีย เยเมน โมร็อกโก กรีซ รวมถึงซาอุดีอาระเบีย โดยในอิรักผู้ประท้วงได้โบกธงปาเลสไตน์และระบุว่า อเมริกันต้องตระหนักว่าการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายอิสราเอลจะนำมาซึ่งความพ่ายแพ้และหายนะ
ส่วนผู้ประท้วงในตูนิเซียได้เผาธงชาติอิสราเอลและอเมริกา พร้อมกับเรียกร้องให้ขับไล่เอกอัครราชทูตสหรัฐและฝรั่งเศสที่ให้การสนับสนุนอิสราเอลโดยปราศจากเงื่อนไข ทั้งยังระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปาเลสไตน์ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรม
อย่างไรก็ดีการประท้วงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในโลกมุสลิมหรือตะวันออกกลาง แต่มีนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพชาวหลายร้อยคน รวมตัวกันในกรุงวอชิงตันเพื่อเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของไบเดนและรัฐสภาสหรัฐกดดันให้มีการหยุดยิง ทำให้ตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงที่ปฏิเสธปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งให้สลายการชุมนุม และยังมีการชุมนุมประท้วงในอีกหลายเมืองของสหรัฐด้วยเช่นกัน
ด้านซาอุดีอาระเบียเรียกร้องให้คนชาติของตนเดินทางออกจากเลบานอนโดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งกลุ่มเฮศบอลเลาะห์ได้ยิงต่อสู้กับกองกำลังอิสราเอล เช่นเดียวกับกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศสที่แนะนำให้พลเมืองไม่เดินทางไปยังเลบานอนเนื่องจากสถานการณ์ด้านความปลอดภัย
