| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | มนต์ทิพย์ ธานะสุข [email protected] |
| เผยแพร่ |
ถึงจังหวะ “น้ำขึ้น” ก็ต้องรีบตักไว้ก่อน เป็นที่เข้าใจได้สำหรับชาวสโลวีเนีย กับกระแส “เมลาเนียมาเนีย” ที่กำลังมา และคาดว่ากระแสจะยิ่งแรงขึ้น
เมื่อ เมลาเนีย ทรัมป์ ก้าวขึ้นเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกา เพราะเอาแค่ตอนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีนิวยอร์ก ผู้เป็นสามี ยังไม่ทันจะคว้าชัยในศึกเลือกตั้งสหรัฐที่ผ่านมา เมลาเนียมาเนีย ก็จุดปรากฏการณ์ “เกาะกระแส” ขึ้นในสาธารณรัฐสโลวีเนีย ประเทศเล็กๆ ในยุโรปตะวันออกติดเทือกเขาแอลป์ ที่เป็นบ้านเกิดของว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐผู้นี้
ที่ชัดเจนเป็นเรื่องของการแสวงหาประโยชน์ทางการตลาด ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์สินค้าหลายอย่างที่ผลิตในท้องถิ่นสโลวีเนีย มักจะต้องอ้างอิง อ้างชื่อ
เมลาเนีย ทรัมป์ เช่น เค้กเมลาเนีย รองเท้าสลิปเปอร์ “ไวท์เฮาส์” หรือการจัดแพคเกจทัวร์ตามรอยเส้นทางสู่ดวงดาวของ เมลาเนีย ทรัมป์
ตอนนี้อะไรๆ ที่เกี่ยวกับ เมลาเนีย ทรัมป์ ย่อมขายได้ ดูอย่างตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในสโลวีเนีย ที่คณะกรรมการการท่องเที่ยวสโลวีเนีย (เอสทีบี) เปิดเผยออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเข้ามาท่องเที่ยวในสโลวีเนียเพิ่มขึ้นถึง 11 เปอร์เซ็นต์ หรือมีจำนวน 80,000 คน ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคมปี 2559 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
โฆษกเอสทีบีบอกว่า การให้ความสนใจในประเทศสโลวีเนียไม่ได้เพิ่งเพิ่มขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง แต่เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ทรัมป์ประกาศตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว นั่นทำให้สโลวีเนียเป็นจุดหมายปลายทางที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ชาวอเมริกันและสื่อมวลชน ด้วยความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นนี้เอง ทำให้เอสทีบีมีแผนเชิงรุกที่จะโปรโมตการท่องเที่ยวสโลวีเนียในตลาดสหรัฐมากขึ้นในปี 2560
โฆษกเอสทีบียังคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวสโลวีเนียจะได้รับแรงหนุนมากขึ้นไปอีกในทันทีที่ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว เมืองเซฟนิกา บ้านเกิดของ เมลาเนีย นาฟส์ (นามสกุลเดิม) ที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงลูบลิยานา เมืองหลวงของสโลวีเนีย ไปเพียง 100 กม. ซึ่งเดิมเมืองเล็กๆ แห่งนี้ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาวา มีประชากรราว 5,000 คน เป็นที่รู้จักแค่ในฐานะแหล่งที่ตั้งโรงงานผลิตชุดชั้นในและเฟอร์นิเจอร์ และมีปราสาทเก่าแก่อายุราว 900 ปี
เจ้าของร้านเบเกอรี่ยูลิยา ในเซฟนิกา ที่ทำเค้กเมลาเนียออกมาขายในราคาชิ้นละ 3 ยูโร บอกว่า “มันเป็นความภาคภูมิใจของชาติ…ในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา
เราขายเค้กตัวนี้ได้หลายชิ้นมาก ผู้คนเดินทางมาจากลูบลิยานาเพื่อมาซื้อเค้กเมลาเนีย”
ขณะที่บริษัทท่องเที่ยว มูรานิกา เผยแผนจะจัดแพคเกจ เมลาเนีย ทัวร์ ในเดือนมีนาคมที่จะถึง เป็นการตามรอยเส้นทางสู่ดวงดาวในอาชีพนางแบบของเมลาเนีย ที่เริ่มจากบ้านเกิดในเซฟนิกา สู่เมืองหลวงลูบลิยานา ถึงนครมิลาน ประเทศอิตาลี ที่เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางชีวิตบนแคตวอล์กของว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ
@MelaniaTrump
แต่ใช่ว่าคนสโลวีเนียทุกคนจะปลื้มปริ่มกับกระแสเมลาเนียมาเนีย หลายคนมองว่านี่เป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาด ที่ชาวบ้านทั่วไปไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย เพราะพวกเขาไม่ได้คิดว่าเมลาเนียเป็นตัวแทนประเทศหรือช่วยโปรโมตบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ เพราะเมลาเนียทิ้งถิ่นเกิดไปตามหาความฝันของตนเองตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นวัยกระเตาะ ก่อนที่เธอจะไขว่คว้าดวงดาวในฐานะนางแบบชั้นนำบนรันเวย์ระดับโลก ที่นำพาเธอมาสู่การเป็นภรรยาคนที่ 3 ของทรัมป์
ที่กำลังจะทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงแถวหน้าของโลก!
