นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เดินทางถึงประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 12 มกราคม ทำให้นายอาเบะเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เดินทางเยือนฟิลิปปินส์นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เตเข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้วและเริ่มดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมอย่างเด็ดขาด
นายอาเบะตั้งใจที่จะคงความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งระหว่างญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ไว้ในขณะที่นายดูแตร์เตปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศของฟิลิปปินส์ด้วยการออกห่างจากสหรัฐอเมริกาที่เป็นพันธมิตรยาวนานทั้งของฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น และเลือกที่จะหันไปสานสัมพันธ์กับจีนและรัสเซียแทน
หลังจากการเดินทางเยือนฟิลิปปินส์เป็นเวลา 2 วัน นายอาเบะจะเดินทางต่อไปยังออสเตรเลีย อินโดนีเซียและเวียดนาม พร้อมคณะผู้แทนจากภาคธุรกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ชะลอตัวจากการที่อัตราการเติบโตของจำนวนประชากรที่ลดลงและประชากรส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยชรา
และแม้ว่านายดูแตร์เตจะตีตัวออกห่างจากสหรัฐ แต่เขายังคงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญี่ปุ่นที่ถือเป็นผู้บริจาคเงินช่วยเหลือฟิลิปปินส์มากที่สุดและเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์
นายอาเบะและรัฐบาลญี่ปุ่นไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์นายดูแตร์เตเรื่องการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดของฟิลิปินส์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วราว 6,000 รายนับตั้งแต่นายดูแตร์เตขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อกลางปีที่แล้ว
นายดูแตร์เตกล่าวโจมตีประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอย่างต่อเนื่องเป็นการตอบโต้เรื่องที่สหรัฐวิพากษ์วิจารณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของฟิลิปปินส์ในการปราบปรามอาชญากรรม
ทั้งนี้ แม้นายดูแตร์เตจะเดินทางเยือนต่างประเทศบ่อยครั้งตั้งแต่รับตำแหน่งประธานาธิบดี แต่นายอาเบะถือเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เยือนฟิลิปปินส์ในยุคของนายดูแตร์เต โดยกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผู้นำทั้ง 2 มีกำหนดหารือกันที่ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
