รัฐบาลทหารเมียนมารับ สูญเสียการคุมเมืองชายแดนสำคัญติดยูนนาน
นายซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ออกมายอมรับผ่านแถลงการณ์ในช่วงค่ำวันที่ 1 พฤศจิกายนว่า กองทัพเมียนมาสูญเสียการควบคุมเมืองยุทธศาสตร์ทางตอนเหนือที่ติดกับชายแดนจีนให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธแล้ว
“ไม่มีตัวแทนของรัฐบาล หน่วยงานบริหาร และองค์กรความมั่นคง อยู่ในเมืองชินชเวฮอ ซึ่งติดกับมณฑลยูนานของจีนอีกต่อไป” นายซอ มิน ตุน กล่าว
เหตุปะทะระหว่างทหารของรัฐบาลกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กองทัพปลดแอกแห่งชาติตะอัง (TNLA) กองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม ซึ่งทั้ง 3 กองกำลังชาติพันธุ์ดังกล่าวระบุในเวลาต่อมาว่า พวกเขาได้ยึดฐานทัพทหารหลายแห่งและถนนสายสำคัญที่เชื่อมระหว่างเมียนมากับจีนไว้ได้แล้ว
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เมียนนมารายงานว่า จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเมียนมา โดยมูลค่าการค้าชายแดนของเมียนมากับจีนมากกว่า 1 ใน 4 ของ หรือราว 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายนปีนี้ เกิดขึ้นผ่านด่านชินชเวฮอ ที่ขณะนี้ตกอยู่ในการควบคุมของกลุ่มติดอาวุธแล้ว
การออกมายอมรับว่าสูญเสียการควบคุมในเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางการค้าของเมียนมาแห่งนี้ มีขึ้นหลังจากที่กองทัพเมียนมาได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งที่ 2 ในพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธบริเวณชายแดนติดกับประเทศจีน
โฆษกกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) ระบุว่า เครื่องบินไอพ่นของกองทัพเมียนมาลำหนึ่งได้โจมตีสถานที่ใกล้กับเมืองไลซาในรัฐกะฉิ่น เพื่อตอบโต้ที่ KIA ได้สังหารทหารและเจ้าหน้าที่เมียนมาที่พยายามยึดถนนสายหลักในรัฐกะฉิ่นกลับคืนมา
