สัญญาณบวก! เฟดไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมะกัน แต่เปิดกว้างขยับขึ้นหากเงินเฟ้อพุ่ง
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 5.4% ในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่เฟดไม่ปรับเพิ่มดอกเบี้ย แต่ก็ยังคงเปิดโอกาสสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เฟดระบุในแถลงการณ์หลังการประชุมว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ที่ 5.4% ซึ่งถือเป็นระดบสูงที่สุดในรอบ 22 ปี เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งถือเป็นการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เป็นนโยบายซึ่งนำมาใช้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่สหรัฐต้องประสบปัญหาเงินเฟ้ออย่างหนัก โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยล่าสุดมีขึ้นเพียงครั้งเดียวในเดือนพฤษภาคม
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 3 ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน และการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี เฟดย้ำว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต หากเฟดเห็นว่ามีความจำเป็น และเรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
เฟดรับด้วยว่า ความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดการเงินสหรัฐเมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรกระทรวงการคลังอายุ 10 ปีแตะระดับสูงที่สุดในรอบ 16 ปี ส่งผลให้อัตราเงินกู้ทั้งระบบเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งช่วยตอบสนองเป้าหมายของเฟดในการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจลง รวมถึงลดแรงกดดันเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวระหว่งแถลงข่าวว่า เฟดใกล้จะสิ้นสุดการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงแล้ว แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ช่วยลดอัตราเงินเฟ้อได้โดยไม่จำเป็นที่เฟดต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ทั้งยังเน้นถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าจ้างที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยบรรเทาอัตราเงินเฟ้อได้อีกทางหนึ่งด้วย
พาวเวลล์แสดงความมั่นใจว่า แม้จะมีสัญญานบ่งชี้ถึงความคงที่ของอัตราเงินเฟ้อในข้อมูลรายเดือนล่าสุด แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะลดลง แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังเติบโตก็ตาม ซึ่งถือเป็นข่าวดีว่าเรากำลังก้าวหน้า ถึงแม้ในระหว่างทางนั้นจะเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่เราก็กำลังก้าวไปข้างหน้า
ประธานเฟดกล่าวด้วยว่า ผู้กำหนดนโยบายของเฟดตระหนักดีว่าผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะยังไม่รู้สึกอย่างเต็มที่ต่อเศรษฐกิจ และพวกเขายังต้องการเวลาในการประเมินผลกระทบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เฟดอาจไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็วๆ นี้ แต่ก็เข้าใจว่าการชะลอตัวของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เฟดต้องทำอะไรอีกมาก หากจำเป็นต้องทำอะไรมากกว่านี้ในอนาคต
การประกาศไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง เนื่องจากนักลงทุนตีความว่า ความหมายของเพาเวลล์คือเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
