ลูกขุนมะกัน ฟันผิด ‘แบงค์แมน-ฟรายด์’ ราชาคริปโทฯ FTX ฐานฉ้อโกง-ฟอกเงิน อาจโดนคุกถึง 110 ปี

แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ ราชาคริปโทเคอร์เรนซี เจ้าของบริษัท FTX (แฟ้มภาพเอเอฟพี)

ลูกขุนมะกัน ฟันผิด ‘แบงค์แมน-ฟรายด์’ ราชาคริปโทฯ FTX ฐานฉ้อโกง-ฟอกเงิน อาจโดนคุกถึง 110 ปี

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ ราชาคริปโทเคอร์เรนซี วัย 31 ปี เจ้าของบริษัท FTX ที่เคยเป็นหนึ่งในตลาดการซื้อขายและแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกคณะลูกขุนศาลในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตัดสินว่ามีความผิดทุกข้อกล่าวหาฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน หลังการพิจารณาคดีที่ดำเนินมากว่า 1 เดือน เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งทำให้ตอนนี้ราชาคริปโทฯผู้นี้กำลังเผชิญกับการอาจได้รับโทษจำคุกยาวนานถึง 110 ปี

หลังการพิจารณาคดีใหญ่เกี่ยวกับการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัลที่ดำเนินมานาน 5 สัปดาห์ คณะลูกขุนศาลนิวยอร์กได้มีคำวินิจฉัยดังกล่าวในการพิจารณาคดีเพียง 5 ชั่วโมง ซึ่งการตัดสินโทษต่อ แบงค์แมน-ฟรายด์ หรือที่เรียกขานในวงกว้างว่า “SBF” จะมีขึ้นในภายหลัง

แดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐ แถลงหลังคำตัดสินของคณะลูกขุนว่า แบงค์แมน-ฟรายด์ กระทำการฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกัน ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เขาเป็นราชาคริปโทฯ

Advertisement

“อุตสาหกรรมเงินดิจิทัลอาจเป็นของใหม่ ผู้เล่นอย่าง SBF อาจเป็นของใหม่ แต่การฉ้อโกงแบบนี้เป็นการทุจริตเหมือนยุคเก่าและเราไม่มีความอดทนกับมัน” อัยการสหรัฐ กล่าว

ด้านนายมาร์ก โคเฮน ทนายความของแบงค์แมน-ฟรายด์ กล่าวว่า พวกเขาผิดหวังอย่างมากกับผลที่ออกมา “แบงค์แมน-ฟรายด์ ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์และจะต่อสู้กับข้อกล่าวหาที่มีต่อเขาต่อไป”

ราชาคริปโทฯผู้นี้ จบการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์(เอ็มไอที) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐและโลก เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอย่างรวดเร็วตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี จากการสร้าง FTX บริษัทสตาร์ตอัพที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ให้กลายเป็นตลาดซื้อขายและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

Advertisement

แต่อาณาจักรคริปโทฯ ของ FTX ต้องล่มสลายในเดือนพฤศจิกายนปี 2022 หลังจากไม่สามารถรับมือกับคำขอถอนเงินจำนวนมหาศาลจากลูกค้าได้เนื่องจากความตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่ากองทุนบางส่วนที่เก็บไว้กับบริษัทตกอยู่ในการดำเนินการที่มีความเสี่ยงโดยอลาเมดา รีเสิร์ช ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความเสี่ยงส่วนตัวของแบงค์แมน-ฟรายด์

ในการพิจารณาคดีที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์ เพื่อนร่วมงานคนสนิทได้ให้การว่า แบงค์แมน-ฟรายด์ เป็นกุญแจสำคัญของการตัดสินใจทั้งหมดที่ทำให้เงินมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหายวับไปจากแพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิทัลของ FTX

ในคำแถลงปิดคดีของอัยการแสดงให้เห็นว่า แบงค์แมน-ฟรายด์ จำเลย เป็นคนฉลาดอย่างยิ่งที่ถูกครอบงำด้วยความโลภ ซึ่งเขารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่เมื่อกองทุน FTX ถูกส่งไปยังอาลาเมดาอย่างลับๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image