ฮิวแมนไรท์วอทช์ชี้หลักฐานชัด อิสราเอลใช้ฟอสฟอรัสขาวใน ‘ฉนวนกาซา-เลบานอน’
ฮิวแมนไรท์วอทช์ องค์การสิทธิมนุษยชนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตรวจสอบหลักฐานตามที่มีข้อสงสัยว่าอิสาราเอลอาจใช้ฟอสฟอรัสขาว ซึ่งแม้จะยังไม่ใช่สารต้องห้ามแต่ก็เป็นสารอันตรายที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าไม่ควรนำมาใช้ในการทำสงคราม เพราะเสี่ยงที่จะทำให้พลเรือนบาดเจ็บสาหัสในระยะยาว ก่อนที่จะสรุปว่าอิสราเอลได้นำเอาฟอสฟอรัสขาวมาใช้งานจริง
ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ตรวจสอบหลักฐานเป็นวิดีโอของเหตุการณ์ที่ถ่ายในเลบานอน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และฉนวนกาซาในวันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งแสดงให้เห็นการระเบิดของปืนใหญ่ที่มีการผสมฟอสฟอรัสขาวหลายครั้งเหนือท่าเรือเมืองกาซาและในพื้นที่ชนบท 2 แห่งบริเวณแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอน นอกจากนี้ยังทำการสัมภาษณ์คน 2 คนที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา
ลามะ ฟากิห์ ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่มีการนำฟอสฟอรัสขาวมาใช้ในพื้นที่ที่มีพลเรือนอยู่หนาแน่น มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผลไหม้ ซึ่งจะสร้างความทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต
“ฟอสฟอรัสขาวเป็นสิ่งผิดกฎหมายที่ทำร้ายคนได้โดยไม่เลือกหน้า เมื่อมีการระเบิดของมันในเขตเมือง มันสามารถเผาบ้านเรือนและทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อพลเรือนได้” ฟากิห์กล่าว
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้โทรศัพท์สัมภาษณ์คน 2 คนในพื้นที่อัล-มินาในเมืองกาซา ซึ่งพวกเขาได้บรรยายถึงการโจมตีที่สอดคล้องกับการใช้ฟอสฟอรัสขาว โดยขณะเกิดเหตุคนหนึ่งอยู่บนถนน และอีกคนหนึ่งอยู่ในอาคารสำนักงานใกล้เคียง
พวกเขาทั้งคู่ได้เล่าถึงการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะบอกว่าเห็นการระเบิดบนท้องฟ้า ตามด้วยสิ่งที่พวกเขาอธิบายว่าเป็นเส้นสีขาวเคลื่อนที่ไปบนพื้นดิน และมันมีกลิ่นอับเกิดขึ้นแรงมาก จนคนที่อยู่ในห้องทำงานบอกว่าเขาต้องเดินไปที่หน้าต่างเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นและถ่ายคลิปเอาไว้ ทั้งคู่ประเมินว่าการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 11.30-13.00 น.
นอกจากนี้ ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังได้ตรวจสอบวิดีโอที่ยืนยันว่าถูกถ่ายไว้ที่ท่าเรือเมืองกาซา โดยอาวุธที่ถูกนำมาใช้คือกระสุนปืนใหญ่ฟอสฟอรัสขาวขนาด 155 มม. ซึ่งมีวิดีโออีกหลายชิ้นที่เกิดขึ้นในสถานที่เดียวกัน ที่แสดงให้เห็นภาพกลุ่มควันหนาสีขาวและมีกลิ่นกระเทียม ซึ่งเป็นลักษณะของฟอสฟอรัสขาว
ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังตรวจสอบวิดีโออีก 2 ชิ้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคม จากสถานที่ 2 แห่งใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ซึ่งวิดีโอแต่ละชิ้นแสดงให้เห็นถึงการใช้ปืนใหญ่บรรจุฟอสฟอรัสขาวขนาด 155 มม. ที่กำลังใช้งานอยู่ ซึ่งดูคล้ายม่านควัน ทำเครื่องหมาย หรือส่งสัญญานบางอย่าง
ทั้งนี้ ฟอสฟอรัสขาวจะติดไฟเมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในบรรยากาศ และมันจะเผาไหม้ต่อไปจนกว่าจะขาดออกซิเจนหรือหมดปฏิกริยาเคมีที่สามารถสร้างความร้อนสูงถึง 815 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดแสงสว่าง และควัน
เมื่อฟอสฟอรัสขาวสัมผัสกับออกซิเจนและทำปฏิกริยาเคมีขึ้น มันสามารถเผาผลาญผู้คนทั้งจากความร้อนและปฏิกริยาเคมีที่ทำลายจนถึงกระดูก เนื่องจากมันสารถละลายได้ดีทั้งในไขมันและเนื้อเยื่อของมนุษย์ เศษของฟอสฟอรัสขาวยังอาจทำให้บาดแผลรุนแรงขึ้นแม้หลังการรักษาแล้ว และมันอาจเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้อวัยวะภายในล้มเหลวได้
