สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 มกราคมว่า หญิงชาวอเมริกันรายหนึ่งวัย 70 กว่าปี เสียชีวิตลงที่รัฐเนวาดาของสหรัฐ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วด้วยสาเหตุการติดเชื้อ “ซุปเปอร์บั๊ก” ที่ดื้อยาปฏิชีวนะทั้งหมด 26 ชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านั้นไม่นาน ผู้หญิงคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาอาการกระดูกขาแตกที่โรงพยาบาลในอินเดีย สาเหตุการเสียชีวิตคือการติดเชื้อในกระแสเลือดจากการได้รับเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มเชื้อกรัมลบทรงแท่งที่พบในลำไส้ (ซีอาร์อี) ซึ่งดื้อยาปฏิชีวนะทุกชนิดที่มีอยู่ในสหรัฐ โดยตรวจพบเชื้อสายพันธุ์หนึ่งของซีอาร์อีคือเคลบเซลลา นิวโมเนียจากบาดแผลแห่งหนึ่งของเธอเมื่อเดือนสิงหาคม
ผลการทดสอบยีนเอ็มซีอาร์ 1 ออกมาเป็นลบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกังวล นั่นคือเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวจะดื้อยาปฏิชีวนะโคลิสตินที่ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาโรคติดเชื้อ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาอาการกระดูกโคนขาแตกและอาการบาดเจ็บที่สะโพกที่อินเดียหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2559 โดยเมื่อตรวจพบที่เนวาดาว่าหญิงคนดังกล่าวติดเชื้อ เธอได้รับการรักษาแบบแยกเดี่ยวเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อในโรงพยาบาล
ผลการชันสูตรศพพบว่า การติดเชื้อดื้อยาของคนไข้รายนี้อาจมาจากวิธีการรักษาด้วยยายาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นวงกว้างที่เรียกว่า ฟอสโฟมัยซิน ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ได้รับอนุญาตในสหรัฐ
