ไบเดนหารือเจ้าผู้ครองนครกาตาร์ บี้ปล่อยตัวประกันทั้งหมด ฮามาสไม่คุย ชี้รับไม่ได้ถล่ม รพ.
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ หารือกับเชคทามิม บิน ฮาหมัด อัล ทานี เจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เกี่ยวกับพัฒนาการในฉนวนกาซา และความพยายามเร่งด่วนที่กำลังดำเนินอยู่ ในการรับประกันให้มีการปล่อยตัวประกันที่ถูกฮามาสจับกุมตัวไป
ทำเนียบขาวระบุว่า ไบเดนได้ประณามอย่างชัดเจนต่อการจับตัวประกันโดยฮามาส ซึ่งรวมถึงเด็กๆ จำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือพลเมืองอเมริกันวัย 3 ขวบ ที่พ่อและแม่ถูกฮามาสสังหารเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
“ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่า ตัวประกันทั้งหมดต้องได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ชักช้า” คำแถลงของทำเนียบขาวระบุ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า กาตาร์ ซึ่งมีผู้นำกลุ่มฮามาสหลายคนพำนักอยู่ ได้เป็นผู้นำในการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหน้าที่ของฮามาสและอิสราเอลในเรื่องตัวประกัน
เจค ซัลลิแน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า กำลังมีการเจรจาที่เข้มแข็งและกระตือรือร้นที่ประกอบด้วยอิสราเอล กาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐ เพื่อขอให้มีการปล่อยตัวประกันเพิ่มเติม แต่ไม่ชัดเจนว่าตัวประกันทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ด้านรัฐบาลกาตาร์ระบุว่า เจ้าผู้ครองนครกาตาร์ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการหยุดยิงในฉนวนกาซาทันที และเปิดเส้นทางด่านราฟาห์ให้สามารถเข้าไปยังอียิปต์แบบถาวร ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องร่วมระหว่างเขากับไบเดน
อย่างไรก็ดี สหรัฐปฏิเสธข้อเรียกร้องของผู้นำโลกอาหรับและผู้นำอื่นๆ ที่ให้อิสราเอลหยุดยิงทันที โดยถ้อยแถลงของทำเนียบขาวไม่ได้กล่าวถึงการหารือใดๆ ในเรื่องการหยุดยิง โดยระบุเพียงว่า ผู้นำพูดถึงความจำเป็นในการปกป้องพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซา
ไบเดนยังย้ำถึงวิสัยทัศน์ของเขาต่อรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต ที่ซึ่งชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์สามารถอยู่เคียงข้างกันด้วยมาตรการที่เท่าเทียมทั้งในด้านความมั่นคงและศักดิ์ศรี และว่า ผู้นำทั้งสองตกลงที่จะดำเนินความพยายามที่จะแบ่งปันวิสัยทัศน์ร่วมกันต่อไป เพื่อภูมิภาคตะวันออกกลางที่สงบสุข ปลอดภัย เจริญรุ่งเรือง และมีเสถียรภาพมากขึ้น
การหารือของผู้นำสหรัฐและเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์มีขึ้นขณะที่การสู้รบรอบโรงพยาบาลทางตอนเหนือของฉนวนกาซายังดำเนินต่อไป โดยอิสราเอลอ้างว่าจำเป็นต้องจัดการกับฮามาสที่สร้างศูนย์บัญชาการไว้ในโรงพยาบาล และไอดีเอฟจำเป็นต้องเข้าไปจัดการกับฮามาส เพื่อปล่อยตัวประกันราว 200 คน ที่ถูกจับกุมตัวไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฮามาสได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยระบุว่า ฮามาสได้ระงับการเจรจาเนื่องจากรับไม่ได้กับวิธีที่อิสราเอลดำเนินการต่อโรงพยาบาลอัล-ชิฟา
ล่าสุด นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า อาจมีข้อตกลงที่จะปล่อยตัวประกันประมาณ 240 คน ที่ถูกฮามาสจับกุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ได้หรือไม่ว่า “อาจมี ยิ่งผมพูดถึงมันน้อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่มันจะเกิดขึ้นได้จริงมากเท่านั้น”
เนทันยาฮูไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ในเรื่องดังกล่าว แต่ย้ำจุดยืนที่เขาพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า สิ่งหนึ่งที่สามารถบังคับให้เกิดข้อตกลงได้คือ การใช้แรงกดดันทางทหารที่กองกำลังป้องกันอิสราเอลกำลังดำเนินการกับกลุ่มฮามาส
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่เปิดเผยชื่อแย้งว่า ถือเป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญที่จำเป็นต้องมีการระงับความขัดแย้ง เพื่อเปิดทางให้สามารถปล่อยตัวประกันได้ แต่เนทันยาฮูปฎิเสธข้อเรียกร้องหยุดยิงที่เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเงื่อนไขว่าจะต้องมีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดเสียก่อน
