WHO ชี้ โรงพยาบาลอัล ชิฟากลายเป็น โซนแห่งความตาย เร่งวางแผนอพยพผู้ป่วยเพิ่ม
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ว่าโรงพยาบาลอัล ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา ได้กลายเป็น “โซนแห่งความตาย” หลังทีมเจ้าหน้าที่ของดับเบิลยูเอชโอและองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้เดินทางไปเยือนโรงพยาบาลดังกล่าวเมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) และพบร่องรอยของการยิงต่อสู้และการทิ้งระเบิด หลังกองทัพอิสราเอลได้บุกเข้าพื้นที่ของโรงพยาบาลเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอิสราเอลอ้างว่ากลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาลอัล ชิฟาเป็นศูนย์บัญชาการ
ทีมเจ้าหน้าที่ที่นำโดยดับเบิลยูเอชโอ ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข โลจิสติกส์ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากหลายหน่วยงานของยูเอ็น มีเวลาอยู่ในโรงพยาบาลอัล ชิฟาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัย โดยทีมเจ้าหน้าที่กล่าวถึงสถานการณ์ในโรงพยาบาลตอนนี้ว่า “สิ้นหวัง” เพราะโรงพยาบาลอัล ชิฟาไม่สามารถใช้เป็นศูนย์การแพทย์ได้เนื่องจากขาดแคลนน้ำสะอาด เชื้อเพลิง ยารักษาโรค และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น
นอกจากนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบหลุมศพจำนวนมากที่ทราบมาว่าใช้ฝังศพผู้เสียชีวิตจำนวนกว่า 80 คนที่บริเวณทางเข้าของโรงพยาบาลอัล ชิฟา โดยขณะนี้ยังมีคนไข้อยู่ภายในโรงพยาบาล 291 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 25 คน และมีเด็กทารกอีก 32 คนอยู่ในขั้นวิกฤต รวมถึงมีคนไข้ 29 คนในโรงพยาบาลมีอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังอย่างรุนแรงที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์ ขณะที่อีกหลายคนมีอาการบาดแผลติดเชื้อเพราะขาดแคลนยาปฏิชีวนะ
ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอชโอกำลังวางแผนเรื่องการอพยพผู้ป่วย เจ้าหน้าที่การแพทย์ และครอบครัวของพวกเขาที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลอัล ชิฟาในทันที แต่ก็ได้เตือนว่าโรงพยาบาลอื่นๆ ใกล้เคียงก็กำลังดำเนินงานเกินความสามารถที่จะรองรับเช่นกัน และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในทันทีเพราะประชาชนในฉนวนกาซากำลังทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
เมื่อวานนี้ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอัล ชิฟาระบุว่า ผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ แพทย์ พยาบาล และผู้พลัดถิ่นจำนวนทั้งสิ้นหลายร้อยคนได้เดินเท้าออกจากโรงพยาบาลตามคำสั่งของกองทัพอิสราเอล ด้านองค์การแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) กล่าวว่า ขบวนรถที่นำเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานพร้อมด้วยครอบครัวถูกโจมตีระหว่างการอพยพออกจากบริเวณใกล้กับโรงพยาบาลอัล ชิฟาแม้จะทำการประสานกับทั้งอิสราเอลและฮามาสแล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย อย่างไรก็ดี อิสราเอลได้ปฏิเสธการสั่งอพยพ โดยระบุว่า กองทัพได้เห็นด้วยกับคำขอของผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่จะอนุญาตให้พลเรือนออกจากพื้นที่ของโรงพยาบาลได้มากขึ้น
ขณะที่ในทางตอนเหนือของฉนวนกาซา นายฟิลิปเป้ ลาซซารินี หัวหน้าองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ X ว่า อิสราเอลได้ทำการทิ้งระเบิดใส่โรงเรียนของทางหน่วยงาน 2 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพลเรือนจำนวน 4,000 คนใช้เป็นที่หลบภัย โฆษกของทางการฮามาสในฉนวนกาซาระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 200 คน ด้านกองทัพอิสราเอลยังไม่ออกมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
หลังการสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสได้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 เจ้าหน้าที่ของฮามาสในฉนวนกาซาได้ปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตในกาซาขึ้นเป็น 12,300 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5,000 ราย