คิม จองอึน หลั่งน้ำตา ต่อหน้าคุณแม่นับพัน หลังอัตราการเกิดเกาหลีเหนือลดฮวบ
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม สำนักข่าว The Independent รายงานว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้หลั่งน้ำตาต่อหน้าคุณแม่ชาวเกาหลีเหนือนับพันคน ที่เข้าร่วมงานวันแม่แห่งชาติ ณ กรุงเปียงยาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังเขาขอให้พวกเธอช่วยเพิ่มประชากรเด็กแรกเกิด เพื่อหยุดการลดลงของอัตราการเกิดของประเทศ
โดยตอนหนึ่ง คิม จองอึน ได้หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่ดวงตา แล้วกล่าวกับพวกเธอว่า การเพิ่มอัตราการเกิด การดูแลเด็กที่ดี ตลอดจนงานบ้านเป็นหน้าที่ของคุณแม่ ซึ่งในประเทศเกาหลีเหนือคุณแม่ยังมีงานสังคมที่ต้องเข้าร่วมด้วย นั่นก็คือการเลี้ยงดูลูกให้พวกเขาสืบทอดระบบคอมมิวนิสต์ต่อไป สร้างเสริมความสามัคคีในครอบครัวและสังคม หยุดการลดลงของอัตราการเกิด และดูแลเด็กให้ดี ให้การศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ


ทั้งนี้ กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) คาดการณ์ว่า อัตราการเจริญพันธุ์ หรือจำนวนเด็กโดยเฉลี่ยที่เกิดจากผู้หญิงในเกาหลีเหนือ อยู่ที่ 1.8 เท่านั้น ท่ามกลางอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนับทศวรรษ ทว่ายังคงสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีเหนือ อย่าง เกาหลีใต้ ที่มีแนวโน้มลดลงคล้ายกัน โดยมีอัตราการเกิดในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 0.78 และประเทศญี่ปุ่น ที่หยุดอยู่ที่ 1.26
โดยอัตราการเกิดที่ลดลงนี้ ส่งผลให้เกาหลีใต้ขาดแคลนกุมารแพทย์ บางเมืองยังได้จัดอีเวนต์จับคู่ เพื่อกระตุ้นอัตราการเกิดของประชากรในประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยฮุนได ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รายงานว่า ประเทศเกาหลีเหนือ มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ซึ่งส่วนมากมาจากการเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้พืชผลเสียหาย กระทบต่อการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว ประกอบกับในช่วงปี 1970-1980 เกาหลีเหนือยังได้กำหนดโครงการคุมกำเนิด เพื่อชะลอการเติบโตของประชากรหลังสงคราม และความอดอยากได้ฆ่าประชากรไปมากกว่าแสนคน
ขณะที่ในปัจจุบันเกาหลีเหนือยังขาดแคลนทรัพยากร และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จึงอาจเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต หากไม่มีการจัดหาแรงงานที่เพียงพอ
ที่มา : The Independent