สัปดาห์ชี้ชะตา! เซเลนสกีเดินสายขอ ต.ต.หนุน ลุ้นอียูไฟเขียวเริ่มเจรจาทางการ รับยูเครนเป็นสมาชิก
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เตรียมที่จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากที่งบประมาณช่วยเหลือยูเครนของสหรัฐมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.13 ล้านล้านบาท ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากสภาคองเกรส
เซเลนสกีมีกำหนดจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 12 ธันวาคม เพื่อหาทางให้ยูเครนได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว โดยนอกจากการเยือนทำเนียบขาวเพื่อหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว ยังคาดว่าเขาจะหารือกับนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐคนใหม่อีกด้วย
การเยือนของผู้นำยูเครนมีขึ้นขณะที่ไบเดนกำลังเรียกร้องให้สมาชิกสภาอนุมัติงบประมาณดังกล่าว ซึ่งถูกนำมาผูกกับการแก้ไขปัญหาพรมแดนในประเทศ ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการนำเอาการเมืองภายในมาโยงกัน ขณะที่พรรครีพับลิกันมองว่าไบเดนควรให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ในประเทศด้วย ทำให้ร่างงบประมาณที่รัฐบาลเสนอถูกคองเกรสระงับไม่นำเข้าสู่การพิจารณา
ในสัปดาห์เดียวกัน ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะยังรวมตัวกันที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยหนึ่งในประเด็นที่จะมีการพิจารณาคือการให้ไฟเขียวในการเริ่มต้นการเจรจา เพื่อรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกอียูอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ดี มันจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการอันยาวไกลสู่การเป็นสมาชิกอียูอย่างเต็มรูปแบบของยูเครน ซึ่งไม่มีหลักประกันเช่นกันว่าจะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุดหรือไม่
ขณะเดียวกัน อียูก็มีกำหนดจะผ่านร่างงบประมาณความช่วยเหลือมูลค่า 50,000 ล้านยูโร หรือราว 1.905 ล้านล้านบาท ในรูปแบบของสินเชื่อและเงินช่วยเหลือแก่ยูเครนก็มีกำหนดที่จะลงนามในสัปดาห์นี้เช่นเดียวกัน
นายวิคเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี ได้ออกมาขัดขวางการเข้าเป็นสมาชิกอียูของยูเครนรวมถึงการให้เงินช่วยเหลือแก่ยูเครน โดยเขาถูกเรียกขานว่าเป็นกระบอกเสียงของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย
ออร์บันบอกว่า ผู้นำยุโรปบีบบังคับให้ต้องรับการเข้าเป็นสมาชิกอียูของยูเครน พร้อมเรียกร้องให้มีการพูดคุยเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับแนวทางโดยรวมของอียู พร้อมกับกล่าวหายูเครนว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุดในโลก
ข้อกล่าวหาดังกล่าวจุดความไม่พอใจอย่างมากในยูเครน ขณะที่บางคนเชื่อว่าผู้นำฮังการีเพียงใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือในการต่อรองเพื่อดึงเงินจากอียูไปยังฮังการีเท่านั้น
สัปดาห์นี้จึงถือว่าเป็นเดิมพันสูงสำหรับยูเครน แต่แหล่งข่าวมองว่าการตัดสินใจเรื่องการเปิดให้ยูเครนเข้าสู่กระบวนการเป็นสมาชิกของอียูอย่างเป็นทางการนั้นมีความสำคัญมากกว่าการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากอียู
เซเลนสกีโพสต์บน X ว่า “มันจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแรงจูงใจของสังคมยูเครนและต่อกองทัพ”
ในความเป็นจริงดูเหมือนว่า ประเทศที่ยังมีข้อสงวนกับการรับยูเครนเป็นสมาชิกอียูมีมากกว่าหนึ่ง แม้ว่านักการทูตในบรัสเซลส์จะยืนยันว่า ฮังการีเป็นเพียงประเทศเดียวที่คัดค้านเรื่องนี้ก็ตามที
