ปรับอารมณ์ไม่ทัน! ยูเครนเพิ่งเฮ เริ่มเจรจาเข้าสมาชิกอียู เจอฮังการีเบรคหัวทิ่ม สกัดงบสู้ศึกรัสเซีย 1.9 ล้านล้าน
ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ได้ให้ความเห็นชอบกับการเริ่มต้นการเจรจาเพื่อเข้าเป็นสมาชิกอียูของยูเครนและมอลโดวาอย่างเป็นทางการ พร้อมกับมอบสถานะผู้สมัครเป็นสมาชิกอียูให้กับจอร์เจียไปพร้อมๆ กัน ในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวยกย่องการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ครั้งนี้ว่า เป็นชัยชนะสำหรับยูเครนและยุโรป
“นี่คือชัยชนะของยูเครนและชัยชนะของทั้งยุโรป ชัยชนะที่สร้างแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจ และเสริมความแข็งแกร่ง” เซเลนสกีโพสต์บน X
ขณะที่ประธานาธิบดีไมอา ซันดู ของมอลโดวา กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แบ่งปันเส้นทางมุ่งไปสู่การเข้าเป็นสมาชิกของอียูร่วมกับยูเครน และว่า เราคงไม่มาอยู่ที่นี่ในเวลานี้หากปราศจากการต่อต้านอย่างกล้าหาญของยูเครน ต่อการรุกรานอันโหดร้ายของรัสเซีย
โฆษกของชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นตามมติเอกฉันท์ โดยมีรายงานว่านายวิคเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี ที่คัดค้านการเจรจารับยูเครนเป็นสมาชิกอียูมากอย่างยาวนาน ไม่ได้ยับยั้งการลงมติดังกล่าว และได้ออกจากห้องประชุมไปขณะที่ผู้นำทั้ง 26 ชาติได้รับรองเรื่องดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่อียูระบุว่า เป็นท่าทีที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าและเป็นท่าทีที่สร้างสรรค์
ด้านออร์บันได้โพสต์วิดีโอบนเฟซบุ๊กว่า การรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกอียูเป็นการตัดสินใจที่แย่ ฮังการีไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับการตัดสินใจที่ย่ำแย่นี้ ดังนั้นเราจึงอยู่ห่างจากมันในวันนี้
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกมาแสดงความยินดีกับความเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ของอียู ที่จะเปิดการเจรจาภาคยานุวัติยูเครนและมอลโดวา พร้อมระบุว่า สิ่งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะบรรลุความปรารถนาในยูโร-แอตแลนติก
ในความเป็นจริงเส้นทางการเข้าสู่การเป็นสมาชิกอียูของยูเครนอย่างเต็มรูปแบบนั้นยังถือว่าอีกยาวไกล การตัดสินใจของผู้นำอียูในวันที่ 14 ธันวาคม จะเป็นเพียงการช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับยูเครนเป็นสำคัญ
ประเทศผู้สมัครเป็นสมาชิกอียูจะต้องผ่านการปฏิรูปภายในประเทศหลายครั้งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของอียู ตั้งแต่ในด้านหลักนิติธรรมไปจนถึงเศรษฐกิจ แม้ว่าผู้บริหารอียูจะชื่นชมยูเครนที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ไปแล้วมากกว่า 90% ในเรื่องกระบวนการยุติธรรมและการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น
อย่างไรก็ดี หลังจากยูเครนดีใจกับเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกภาพอียูได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องพบกับความผิดหวังครั้งใหญ่ตามมา เมื่อนายออร์บันได้ขัดขวางการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือยูเครนทำสงครามของอียูมูลค่า 50,000 ล้านยูโร หรือราว 1.917 ล้านล้านบาท
ออร์บันโพสต์บนโซเชียลมีเดียของเขาหลังการเจรจาในกรุงบรัสเซลส์ว่า “บทสรุปของการเปลี่ยนแปลงในยามค่ำคืน : ใช้สิทธิวีโต้คัดค้านเงินช่วยเหลือพิเศษให้ยูเครน”
ด้านผู้นำยุโรประบุว่า จะมีการกลับมาเจรจาเรื่องความช่วยเหลือสำหรบยูเครนอีกครั้งในต้นปีหน้า
งบประมาณช่วยเหลือที่ไม่ผ่านการอนุมัติดังกล่าวมีความสำคัญยิ่งสำหรับยูเครน ที่ต้องพึ่งพาเงินสนับสนุนจากสหรัฐ อียู และชาติตะวันตกรวมถึงชาติพันธมิตรในการทำสงครามกับรัสเซีย แต่ในช่วงที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาความไม่แน่นอนของเงินอุดหนุน ต่างจากในช่วงแรกของการทำสงคราม
ก่อนเดินทางมายังบรัสเซลส์ เซเลนสกีเพิ่งจะเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อโน้มน้าวให้สภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณสนับสนุนยูเครน 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามต้องการ กระทั่งมาเจอสกัดงบประมาณช่วยเหลือจากอียูอีกครั้ง ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบกับยูเครนพอสมควร
นายมาร์ก รุตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กล่าวถึงการคัดค้านของนายออร์บันว่า เรายังมีเวลาอยู่บ้าง เงินที่ยูเครนมีอยู่จะไม่หมดลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“26 ประเทศต่างเห็นพ้องกัน ออร์บันจะไม่สามารถสกัดเงินช่วยเหลือได้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในต้นปีหน้า เรากำลังคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมกราคม” รุตเตอกล่าว
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 14 ธันวาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ล้อเลียนยูเครนโดยอ้างว่า การสนับสนุนจากตะวันตกกำลังจะหมดลง “ขอโทษด้วยที่หยาบคาย แต่ทุกอย่างได้มาในฐานะของฟรี และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ของฟรีเหล่านั้นอาจหมดลง” พร้อมย้ำว่า วัตถุประสงค์ในการทำสงครามของเขาไม่เปลี่ยนแปลง
