จับตาทะเลแดงเดือด! ‘มะกัน-ผู้ดี’ ส่งสัญญาณ จ่อปฏิบัติการทางทหาร หลังฮูตีโจมตีครั้งใหญ่
สถานการณ์ในทะเลแดงอยู่ในภาวะตึงเครียดครั้งใหม่ หลังสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรส่งสัญญาณว่าอาจจะเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน หลังจากที่ได้มีการปะทะกันครั้งใหญ่ที่สุดในทะเลแดงเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้กลุ่มพันธมิตรนานาชาติที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 10 ประเทศ ซึ่งนำโดยสหรัฐที่เคยออกแถลงการณ์ร่วมที่พวกเขาระบุว่า เป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายต่อฮูตีให้หยุดโจมตีเรือในทะเลแดง ไม่เช่นนั้นจะเจอกับการตอบโต้ทางทหารแบบพุ่งเป้า
รายงานระบุว่า เครื่องบินไอพ่นและเรือรบจากเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐได้ยิงโดรนและขีปนาวุธ 21 ลูกที่กบฏฮูตี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านยิงใส่เรือในทะเลแดง
ด้านพันธมิตรได้ออกมาเตือนถึงผลที่จะตามมาจากการโจมตีดังกล่าว โดยนายแกรนท์ แชปส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักร ตอบคำถามเมื่อถูกถามถึงการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในเยเมนว่า ให้ “จับตาดูพื้นที่นี้”
แชปส์ออกแถลงการณ์เตือนว่า สหราชอาณาจักรและพันธมิตรได้แสดงให้เห็นชัดเจนก่อนหน้านี้ว่า การโจมตีที่ผิดกฎหมายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และหากยังเกิดขึ้นต่อไป กลุ่มฮูตีก็ต้องรับผลที่จะตามมา และเราจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์และเศรษฐกิจโลก
แชปส์ย้ำว่า การโจมตีดังกล่าวก่อให้เกิดภัยคุกคามโดยตรงต่อเสรีภาพในการเดินเรือ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการค้าโลก ในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกมาระบุว่า การโจมตีเรือในทะเลแดงต้องยุติลง และมันจะมีผลที่ตามมาจากการที่กบฏฮูตีโจมตีเรือในทะเลแดงอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มฮูตีกล่าวว่า พวกเขามุ่งเป้าไปที่การโจมตีเรือของสหรัฐที่ให้การสนับสนุนอิสราเอล
กองทัพสหรัฐระบุว่า โดรนที่ถูกออกแบบโดยอิหร่านมาทำการโจมตีเที่ยวเดียว ขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือ และขีปนาวุธต่อต้านเรือ ถูกปล่อยมาจากพื้นที่ควบคุมของฮูตีในเยเมน เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น
โดรน 18 ลำ ขีปนาวุธร่อน 2 ลูก และขีปนาวุธ 1 ลูก ถูกเครื่องบินรบเอฟ/เอ 18 จากเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอส ดไวต์ ดี ไอเซนฮาวร์ ซึ่งประจำการอยู่ในทะเลแดง และโดยเรือพิฆาต 4 ลำ คือเรื่องยูเอสเอส เกรฟลี, ยูเอสเอส ลาบูน, ยูเอสเอส เมสัน และเอชเอ็มเอส ไดมอนด์
แหล่งข่าวด้านกลาโหมระบุว่า เรือยูเอสเอส ไดมอนด์ ยิงโดรนฮูตีตก 7 ลำ โดยใช้ปืนและขีปนาวุธซีไวเพอร์ ซึ่งมีราคาลูกละ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 45.5 ล้านบาท
การโจมตีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นการโจมตีครั้งที่ 26 ที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ในทะเลแดงนับตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานการบาดเจ็บหรือความเสียหายแต่อย่างใด
ยาห์ยา อัล-ซาเรีย โฆษกกองทัพฮูตียืนยันว่า กองกำลังฮูตีได้ปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ ขีปนาวุธทางเรือ และโดรนจำนวนมาก โดยมุ่งเป้าไปที่เรือของหสรัฐที่ให้การสนับสนุนไซออนนิสต์ (อิสราเอล)
“ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอบสนองเบื้องต้นต่อการโจมตีต่อกองทัพเรือของเราโดยกองกำลังศัตรูของสหรัฐ” อัล-ซาเรีย กล่าวถึงการจมเรือเร็วของฮูตี 3 ลำ และการสังหารลูกเรือโดยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือสหรัฐ ขณะกลุ่มฮูตีพยายามโจมตีเรือขนส่งสินค้าในวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา
อัล-ซาเรียอ้างด้วยว่า กบฏฮูตีไม่ลังเลที่จะจัดการกับภัยคุกคามที่ไม่เป็นมิตรทั้งหมดอย่างสาสม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการป้องกันประเทศและประชาชนของเรา
“ฮูตีจะยังคงป้องกันไม่ให้เรือของอิสราเอลมุ่งหน้าไปยังปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ในการเดินเรือทั้งจากทะเลแดงและทะเลอาหรับ จนกว่าการรุกราน (ของอิสราเอลในฉนวนกาซา) จะสิ้นสุดลง และการปิดล้อมถูกยกเลิก” อัล-ซาเรียกล่าว
ทั้งนี้ เกือบ 15% ของการค้าทางทะเลทั่วโลกดำเนินการผ่านทะเลแดง ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยคลองสุเอซ และเป็นเส้นทางเดินเรือที่สั้นที่สุดระหว่างยุโรปกับเอเชีย
เหตุวุ่นวายในเส้นทางเดินเรือดังกล่าวยังทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า ราคาน้ำมันโลกจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งยังจะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายขึ้นกับห่วงโซ่อุปทานโลกอีกด้วย
ด้านหอการค้าระหว่างประเทศระบุว่า 20% ของเรือคอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าทั่วโลกกำลังหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินเรือผ่านทะเลแดง และหันไปใช้เส้นทางที่ยาวกว่าด้วยการลงไปอ้อมพื้นที่ทางใต้สุดของทวีปแอฟริกาแทน