ศาลโลกเดือด! แอฟริกาใต้ซัดอิสราเอล ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ยิวปัดไม่มีมูล
แอฟริกาใต้ซึ่งยื่นฟ้องอิสราเอลต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ระบุขณะศาลเปิดพิจารณาคดีในวันที่ 11 มกราคมว่า การโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลซึ่งทำลายพื้นที่บริเวณชายฝั่งส่วนใหญ่ และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 23,000 ราย มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายล้างพลเมืองกาซา
เทมเบกา อึงคูไคโตบี ผู้สนับสนุนศาลสูงแอฟริกาใต้กล่าวต่อศาลโลกว่า ความตั้งใจที่จะทำลายกาซาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ผู้นำระดับสูงของรัฐ ผู้นำทางการเมืองและทางทหารของอิสราเอล รวมถึงนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ล้วนอยู่ในกลุ่มผู้ยุยงให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากวิธีโจมตีของทหารในครั้งนี้
สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อึงคูไคโตบีชี้ไปที่การทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องของอิสราเอล และคำกล่าวของนายยูอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ที่กล่าวในช่วงต้นของสงครามว่า อิสราเอลจะปิดล้อมกาซาโดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ หลักฐานของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไม่เพียงแต่น่าหวาดกลัว แต่ยังมากมายท่วมท้นจนไม่อาจโต้แย้งได้
ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ว่าเป็นความเท็จและไม่มีมูลความจริง พร้อมทั้งระบุว่า แอฟริกาใต้พูดในนามของฮามาส ซึ่งแอฟริกาใต้ก็ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลกล่าวว่า ข้อมูลที่นำเสนอต่อศาลมีแต่เรื่องหลอกลวงและโกหก วันนี้เราได้เห็นโลกตีลังกากลับหัว อิสราเอลถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในขณะที่เรากำลังต่อสู้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
อิสราเอลย้ำว่ากำลังทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ไม่ใช่กับชาวปาเลสไตน์ โดยเนทันยาฮูระบุว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่อมนุษยชาติ ซึ่งทั้งสังหาร ข่มขืน เผา ตัดชิ้นส่วน ตัดศีรษะเด็ก ผู้หญิง คนชรา ชายหนุ่ม และหญิงสาว
คำฟ้องของแอฟริกาใต้ยังอ้างถึงความล้มเหลวของอิสราเอลในการจัดหาอาหาร น้ำ ยารักษาโรค และความช่วยเหลือที่จำเป็นอื่นๆ ให้แก่ผู้คนในฉนวนกาซา
แอฟริกาใต้ได้เรียกร้องให้ศาลออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อยุติสงคราม ซึ่งสร้างความสูญเสียและการนองเลือดในฉนวนกาซา โดยศาลจะรับฟังคำโต้แย้งของอิสราเอลอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มกราคมนี้ ตามเวลาในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
ในระหว่างการเปิดไต่สวนคดีของศาลโลก มีผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่ายออกมาเดินขบวนและร่วมชุมนุมในกรุงเฮก โดยมีการกันผู้ประท้วงที่สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามกันให้อยู่ห่างจากกัน โดยไม่มีรายงานความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คาดว่าศาลโลกจะอ่านคำตัดสินเกี่ยวกับมาตรการฉุกเฉินในปลายเดือนมกราคมนี้ ขณะที่การพิจารณาคดีในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยังต้องใช้เวลาสอีกหลายปีกว่าจะได้ข้อยุติ
