เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัทผู้ผลิตอาวุธปืนในสหรัฐอเมริกาหันจับตลาด”เด็ก”เป็นกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการผลิตปืนที่มีสีสันสดใสมาล่อใจและกระตุ้นให้พ่อแม่เด็กสนับสนุนให้ลูกๆหัดยิงปืนให้เป็นตั้งแต่อายุยังน้อยๆ
ข้อมูลดังกล่าวถูกกล่าวอ้างในรายงานของศูนย์นโยบายความรุนแรง ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อยุติความรุนแรงจากอาวุธปืน ระบุว่า สาเหตุที่บริษัทผู้ผลิตปืนหันมาทำการตลาดโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคอายุน้อย เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นกลุ่มชายผิวขาวนั้นอยู่ในวัยที่โรยชราลง
“อุตสาหกรรมอาวุธปืนหันมาเล็งกลุ่มเด็กในอเมริกา เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่หาคนสูบมาแทนที่ ผู้ผลิตอาวุธปืนก็กำลังจะหาคนยิงมาแทนที่ โดยหวังว่าจะเพิ่มยอดขายปืนได้ เป้าหมายที่ตามมาของความพยายามนี้คือการสร้างกลุ่มคนรุ่นต่อไปที่สนับสนุนการใช้อาวุธในการต่อสู้ในอนาคต” ศูนย์นโยบายความรุนแรงระบุ ทั้งยังยกตัวอย่างความพยายามที่จะเจาะตลาดอาวุธปืนกลุ่มเด็กอย่างดุเดือด เช่น การผลิตปืนยาวที่ส่วนหนึ่งทำจากพลาสติกเพื่อให้เด็กจับได้ง่ายขึ้น ให้ปืนมีน้ำหนักเบาและก่อแรงสะท้อนกลับมาน้อยลง ผู้ผลิตปืนบางรายยังขายปืนขนาดเล็กหลากหลายแบบที่เอาใจเด็กๆด้วยการออกแบบให้มีสีสันสดใส เช่น ปืนสีชมพูที่เอาใจเด็กผู้หญิง
รายงานยังระบุอีกว่า ผู้ผลิตปืนและกลุ่มนักล็อบบี้ต้องการให้พ่อแม่ผู้ปกครองให้เด็กเข้าถึงปืนได้ตั้งแต่อายุยังน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และว่า ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ของสมาคมปืนยาวแห่งชาติ(เอ็นอาร์เอ) ที่เป็นกลุ่มล็อบบี้ปืนองค์กรใหญ่ในสหรัฐ ได้จัดแยกประเภทสมาชิกรุ่นเยาว์ของสมาคมไว้เป็น กลุ่ม”อายุต่ำกว่า 8 ปี” และกลุ่ม”อายุ 8 ปีขึ้นไป” และขณะนี้เว็บไซต์ของ “เอ็นอาร์เอ” ในส่วนที่เป็นเอ็นอาร์เอ แฟมิลี ยังมีบทความที่เขียนในปี 2014 ทดสอบปืนไรเฟิลสำหรับเยาวชน โดยระบุว่าเป็นปืนขนาดเล็กที่ผลิตมาเพื่อนักยิงปืนอายุน้อยมากๆ ถือว่าเป็นปืนที่ใช้ในระดับเริ่มต้นยิง ซึ่งผู้ผลิตปืนระบุว่าพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็กอายุ 6-12 ปี
ด้านกลุ่มเมืองเพื่อความปลอดภัยด้านอาวุธปืน ซึ่งเป็นอีกองค์กรเคลื่อนไหวระบุว่า ความรุนแรงจากอาวุธปืนกำลังอย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐ ที่เด็ก 1 ใน 3 ในภาคครัวเรือนจะมีอาวุธปืนอย่างน้อย 1 กระบอกในครอบครอง ขณะที่ข้อมูลทางสถิติชี้ว่าโดยเฉลี่ยในแต่ละวันมีเด็กและวัยรุ่นในสหรัฐที่ถูกสังหารเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนถึง 7 ราย