ไม่จบง่าย! ทำเนียบขาวชี้ โจมตีตอบโต้อิหร่านใน ‘อิรัก-ซีเรีย’ แค่เริ่มต้น

AP

ไม่จบง่าย! ทำเนียบขาวชี้ โจมตีตอบโต้อิหร่านใน ‘อิรัก-ซีเรีย’ แค่เริ่มต้น

ทำเนียบขาวของสหรัฐออกมาเตือนว่า การโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในอิรักและซีเรีย เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของปฏิบัติการตอบโต้อิหร่านของสหรัฐ

นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ บอกกับสื่อสหรัฐในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ว่า จะมีขั้นตอนต่างๆ ตามมาอีก และสหรัฐเชื่อว่าการโจมตีดังกล่าวส่งผลดีต่อการลดขีดความสามารถของกองกำลังติดอาวุธ

ซัลลิแวนยืนยันว่า สหรัฐไม่ต้องการเข้าร่วมกับปฏิบัติการทางทหารแบบที่ไม่รู้ว่าจะยุติลงเมื่อใดในตะวันออกกลาง แต่พร้อมที่จะจัดการกับอะไรก็ตามจากกลุ่มใดๆ ก็ตามที่เข้ามาโจมตีสหรัฐ

Advertisement

อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐปฏิเสธที่จะบอกว่า สหรัฐได้ตัดประเด็นเกี่ยวกับการโจมตีภายในอิหร่านทิ้งไปหรือไม่

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า นับตั้งแต่สหรัฐและพันธมิตรได้ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับในอิรักและซีเรียเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามด้วยการโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮูตี 36 แห่งในเยเมน มีรายงานการโจมตีกองกำลังสหรัฐเกิดขึ้นเพียง 1 ครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในซีเรีย โดยเป็นการโจมตีด้วยจรวด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายขึ้นแต่อย่างใด

ในจดหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐส่งถึงสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่ประธานาธิบดีจะต้องแจ้งเรื่องกับคองเกรสภายใน 48 ชั่วโมงหลังปฏิบัติการทางทหารเกิดขึ้น ระบุว่า การโจมตีตอบโต้ในวันศุกร์มุ่งเป้าไปที่สถานที่ที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) ใช้ และกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับ IRGC

Advertisement

ไบเดนกล่าวว่า เชื่อว่า IRGC ได้ติดอาวุธ ให้เงินสนับสนุน และฝึกอบรมกลุ่มต่อต้านในอิรัก และจุดที่สหรัฐทำการโจมตียังรวมถึงสถานที่ที่ใช้สำหรับควบคุมและสั่งการ คลังอาวุธ สถานที่ฝึกอบรม จุดสำหรับการให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ และเป้าหมายอื่นๆ

ผู้นำสหรัฐบอกด้วยว่า การโจมตีดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางคนกลุ่มนี้ไม่ให้ทำการโจมตีเพิ่มเติม และยังเกิดขึ้นในลักษณะที่จำกัดความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์บานปลายและหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน

ไบเดนกล่าวว่า เขายังจะกำหนดมาตรการเพิ่มเติม รวมถึงการต่อต้านบคุลากรและสถานที่ต่างๆ ของ IRGC และเครือข่ายของ IRGC ตามที่เห็นว่าเหมาะสมต่อไป

ด้านกลุ่มฮูตีให้คำมั่นว่าจะตอบโต้การโจมตีที่นำโดยสหรัฐอย่างแน่นอน โดยยาห์ยา ซาเรีย โฆษกกองทัพฮูตี โพสต์บน X ว่า การโจมตีเหล่านี้จะไม่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางศีลธรรม ศาสนา และมนุษยธรรม ในการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ถูกปล่อยให้ไม่มีคำตอบหรือไม่ถูกลงโทษ

การตอบโต้ของสหรัฐและพันธมิตรยังเรียกเสียงประณามเพิ่มขึ้นจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาครวมถึงรัฐบาลอิรักและซีเรีย

นายฟาร์ฮัต อะลาอัลดิน ที่ปรึกษาอาวุโสของนายกรัฐมนตรีอิรัก ให้สัมภาษณ์ในรายการของบีบีซีว่า ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ เกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้น แต่ประเด็นเกี่ยวกับการเตือนหรือไม่เตือนนั้นไม่ทำให้เกิดความแตกต่างใดๆ ขึ้น เมื่อคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่า อิรักเป็นรัฐอธิปไตย

ขณะที่ผู้คนได้ออกมารวมตัวกันในกรุงแบกแดดในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เพื่อไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของกลุ่มติดอาวุธสนับสนุนอิหร่าน 17 รายที่เสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ พร้อมตะโกนว่า “อเมริกันคือปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” พร้อมกับชูภาพเหยื่อ ขณะติดตามขบวนรถที่บรรทุกศพของผู้เสียชีวิต

ด้านบาดร์ อัลบูซัยดี รัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน ออกมาแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการขยายตัวของสถานการณ์อย่างต่อเนื่องในภูมิภาค พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของสหรัฐส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย เสถียรภาพ และความพยายามของภูมิภาคในการจัดการกับความท้าทายต่างๆ เช่นความรุนแรงหรือลัทธิหัวรุนแรง

นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งจะมีการเยือนอิสราเอล อียิปต์ กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และเวสต์แบงก์ โดยซัลลิแวนระบุว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับตัวประกันกับฮามาส ซึ่งจะทำให้เกิดการยุติการสู้รบในฉนวนกาซา เป็นสิ่งที่ได้รับความสำคัญสูงสุด และเราจะกดดันอย่างไม่ลดละ ขึ้นกับฮามาสว่าจะทำอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image