บลิงเกนย้ำ สหรัฐมุ่งเพิ่มความร่วมมือ ‘การค้า-การลงทุน’ ไทย หนุนแก้วิกฤตเมียนมา

REUTERS

บลิงเกนย้ำ สหรัฐมุ่งเพิ่มความร่วมมือ ‘การค้า-การลงทุน’ ไทย หนุนแก้วิกฤตเมียนมา

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงผลการหารือระหว่างนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยว่า นายบลินเกนย้ำถึงความสำคัญของความเป็นพันธมิตรของสหรัฐ-ไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงโอกาสในการกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งในประเด็นทวิภาคีและประเด็นระดับโลก

นายบลิงเกนได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐในการเพิ่มความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน ในขณะที่เราส่งเสริมอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง และการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รวมถึงผ่านความร่วมมือทางวิชาการใหม่ๆ และยกระดับความสัมพันธ์ทางสถาบันที่มีอยู่

นายบลิงเกนยังยืนยันความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของสหรัฐต่อการเป็นแกนกลางของอาเซียน และการดำเนินการตามข้อตกลงหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างสหรัฐและอาเซียน

Advertisement

ทั้งสองฝ่ายพูดถึงความสำคัญของประชาธิปไตย การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าพลเมืองทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองได้อย่างอิสระ

นายบลิงเกนยังได้หารือในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงความพยายามของประเทศไทยและอาเซียนเพื่อแก้ไขวิกฤติที่เลวร้ายยิ่งขึ้นในเมียนมา พวกเขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการขยายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้พลัดถิ่นในเมียนมาและในภูมิภาค ทั้งนี้ ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเจรจาอย่างครอบคลุมระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวอย่างไม่ยุติธรรมทั้งหมด ยุติความรุนแรง และทำให้เมียนมากลับสู่เส้นทางสู่เส้นทางของประชาธิปไตยภายใต้การปกครองโดยรัฐบาลพลเรือน

นายบลิงเกนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐที่จะทำให้ตัวประกันที่เหลือซึ่งถูกฮามาสจับกุมตัวไปได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด พร้อมแสดงความยินดีกับการมีปฏิสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศ โดยระบุถึงการหารือยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศสหรัฐ-ไทยในวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์นี้ ว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เจ้าหน้าที่สหรัฐและไทย เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ทางการทูตตลอด 190 ปี เพื่อเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image