น้องสาวผู้นำคิม ทอดไมตรี บอกความเห็นเชิงบวกนายกฯปลาดิบ อาจเปิดทางพัฒนาสัมพันธ์สองชาติ
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า นางคิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เปิดเผยว่าเกาหลีเหนือเปิดกว้างที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น และอาจมีโอกาสที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นจะเดินทางเยือนกรุงเปียงยางด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์
คำกล่าวของนางคิม โย จอง มีขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีคิชิดะของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเขารู้สึกถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเขากำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพบกับผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อแก้ไขในประเด็นที่เกาหลีเหนือลักพาตัวพลเรือนชาวญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980
นางคิม โย จอง ที่ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ กล่าวว่าความเห็นของนายคิชิดะอาจมองได้ว่าเป็นสัญญาณบวก หากมันหมายความว่าเกาหลีเหนือและญี่ปุ่นจะพัฒนาความสัมพันธ์กัน
“หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะเปิดช่องทางใหม่เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน ตามมุมมองของฉันทั้งสองประเทศสามารถเปิดฉากอนาคตใหม่ร่วมกันได้” นางคิมกล่าว พร้อมบอกด้วยว่าไม่มีเหตุผลใดที่ทั้งสองประเทศจะไม่ใกล้ชิดกัน และวันที่นายกรัฐมนตรีคิชิดะของญี่ปุ่นจะเดินทางเยือนกรุงเปียงยางก็อาจมาถึงสักวัน
อย่างไรก็ตาม นางคิมกล่าวเสริมว่านี่เป็นเพียงข้อสังเกตส่วนตัวของเธอเท่านั้น และผู้นำเกาหลีเหนือยังไม่มีแผนใดเป็นพิเศษสำหรับเรื่องความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น หรือทำการติดต่อกับญี่ปุ่นแต่อย่างใด แต่ล่าสุด นายโยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นได้กล่าวเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เพียงว่าญี่ปุ่นกำลังให้ความสนใจกับความเห็นของนางคิม โย จอง
นายฮายาชิกล่าวถึงการที่นางคิม โย จองบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและญี่ปุ่นเลวร้ายลง นับตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นมักยกเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการพูดคุยในประเด็นการลักพาตัวที่ยุติลงไปแล้ว ว่า “คิชิดะบอกว่าเขาต้องการที่จะเจรจาผ่านการประชุมสุดยอดกับผู้นำคิม จอง อึน แต่ข้อโต้แย้งของเกาหลีเหนือว่าประเด็นเรื่องการลักพาตัวได้รับการแก้ไขแล้วนั้นถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างที่สุด”
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมักวิจารณ์ความพยายามในการพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัวและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่ญี่ปุ่นได้กระชับความร่วมมือทางความมั่นคงกับพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้
การที่เกาหลีเหนือลักพาตัวชาวญี่ปุ่นยังคงเป็นประเด็นใหญ่และละเอียดอ่อนในญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือได้ออกมายอมรับในปี 2002 ว่าได้ส่งสายลับไปลักพาตัวชาวญี่ปุ่น 13 คน เพื่อบังคับให้พวกเขาฝึกอบรมภาษาญี่ปุ่นและให้ความรู้ด้านศุลกากรแก่สายลับเกาหลีเหนือ แต่มีความเชื่อว่าอาจมีชาวญี่ปุ่นถูกลักพาตัวโดยสายลับเกาหลีเหนือมากกว่านั้น