ศาลแขวงนิวยอร์กสั่งเบรกคำสั่ง’บางส่วน’ของทรัมป์ ระงับการคุมตัวและส่งกลับมุสลิม

REUTERS/Jonathan Ernst

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม ผู้พิพากษา แอนน์ ดอนเนลลี ผู้พิพากษาศาลแขวงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้ระงับใช้บางส่วนของคำสั่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ลงนามไปเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ที่ให้ระงับการเดินทางเข้าประเทศของผู้อพยพเป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 120 วัน และห้ามการประทับตราวีซ่าสำหรับเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาของผู้ถือสัญชาติ 7 ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ยกเว้นกรณีของซีเรียเป็นการห้ามถาวร หรือจนกว่าประธานาธิบดีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยผู้ที่เข้าข่ายดังกล่าวจะถูกกักตัวและส่งตัวกลับ ในกรณีที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานี้

คำสั่งเร่งด่วนของผู้พิพากษาศาลแขวงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีคนจำนวนมากถูกกักและควบคุมตัวอยู่ตามท่าอากากศยานต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและในต่างประเทศ ในขณะที่บางคนซึ่งบินอยู่กลางอากาศเมื่อคำสั่งมีผลบังคับใช้ ก็ถูกสายการบินต่างๆ ส่งตัวกลับต้นทาง หรือไม่ก็กักตัวอยู่ตามสนามบินต่างๆ จนเป็นเหตุให้สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (เอซีแอลยู) ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลมีคำสั่งให้ระงับการควบคุมตัวและการส่งกลับ รวมทั้งมีคำสั่งให้รัฐบาลจัดทำรายชื่อของผู้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในสหรัฐอันเนื่องจากคำสั่งนี้ทั้งหมดให้กับศาล ในส่วนที่เอซีแอลยูอ้างว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญนั้น จะมีการไต่สวนต่อไป โดยกำหนดรับฟังข้อเท็จจริงอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์นี้

นายแอนโธนี โรเมโร ผู้อำนวยการเอซีแอลยู ระบุว่า เมื่อประธานาธิบดีบังคับใช้กฎหมายหรือมีคำสั่งทางบริหารที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ ก็เป็นหน้าที่ศาลที่จะปกป้องสิทธิของทุกๆ คน และถือว่าคำสั่งศาลครั้งนี้เป็นชัยชนะที่อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ทำให้ใครถูกเนรเทศกลับไปเผชิญกับอันตรายในประเทศบ้านเกิด แต่ยังคงต้องต่อสู้กันต่อไปเพื่อยกเลิกคำสั่งทั้งฉบับ

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวสั้นๆ กับผู้สื่อข่าว ก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งศาลออกมาว่า คำสั่งของตน “ได้ผลดีมากๆ เห็นได้ตามสนามบินทุกๆ แห่ง” และย้ำว่า คำสั่งของตนไม่ใช่เป็นการห้ามมุสลิมเข้าประเทศ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการ “คัดกรองสูงสุด” ซึ่งควรดำเนินการมานานแล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image