ประชุมสภาจีนเปิดฉาก ประกาศตั้งเป้าศก.ปี 2567 โต 5% สร้างงานเพิ่ม 12 ล้านอัตรา ทุ่มงบกลาโหมเพิ่ม 7.2%

นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ขึ้นกล่าวในการเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ(เอ็นพีซี)ของจีน ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม (รอยเตอร์)

ประชุมสภาจีนเปิดฉาก ประกาศตั้งเป้าศก.ปี 2567 โต 5% สร้างงานเพิ่ม 12 ล้านอัตรา ทุ่มงบกลาโหมเพิ่ม 7.2%

การประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ของจีน ที่มีคณะผู้นำจีนและสมาชิกจากทั่วประเทศเกือบ 3,000 คนเข้าร่วม ในการประชุมราวหนึ่งสัปดาห์ ได้เริ่มขึ้นแล้ว ณ มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม โดยนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในการเปิดการประชุมด้วยการประกาศตั้งเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 นี้ ไว้ที่ราว 5% ขณะให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปรูปแบบการพัฒนา ควบคุมต้นทุนการผลิตที่สูงเกินไปของภาคอุตสาหกรรม ขจัดความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ และลดการใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองของรัฐบาลท้องถิ่น

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน (รอยเตอร์)

นายหลี่กล่าวว่า ในการกำหนดอัตราการเติบโตไว้ที่ประมาณ 5% เราได้คำนึงถึงความจำเป็นในการเพิ่มการจ้างงานและรายได้ ตลอดจนป้องกันและขจัดความเสี่ยง

“เราไม่ควรมองข้ามฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดและควรเตรียมพร้อมอย่างดีสำหรับความเสี่ยงและความท้าทายทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องผลักดันด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเติบโต การปรับโครงสร้าง การปรับปรุงคุณภาพและการเพิ่มประสิทธิภาพ” นายหลี่กล่าว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในทันทีถึงการเปลี่ยนแปลงที่รัฐบาลจีนมุ่งหมายจะทำให้บรรลุผล

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ดี ในรายงานการทำงานของรัฐบาลปักกิ่งระบุว่า ในปี 2567 รัฐบาลตั้งเป้าที่จะสร้างงานใหม่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้น 12 ล้านตำแหน่ง โดยคาดว่าอัตราการว่างงานในประเทศปีนี้จะอยู่ที่ราว 5.5% ขณะคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่คาดการณ์ในปีที่แล้ว

รอยเตอร์

การตั้งเป้าเศรษฐกิจจีนในปีนี้โตที่ระดับดังกล่าว ซึ่งอยู่เป็นประมาณการเดียวกันกับปีที่แล้ว หลังจากจีนพลาดเป้าเศรษฐกิจโตที่ 5.5% ไปในปี 2565 ได้นั้น ในความเห็นของนักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การตั้งเป้าอันทะเยอทะยานดังกล่าว จะเป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังเผชิญกับแรงปะทะอย่างรุนแรงหลายด้าน

ADVERTISMENT

หวัง เถา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของยูบีเอส กล่าวว่า เราไม่ถือว่าเป้าหมายการเติบโต 5% เป็นการระมัดระวัง แต่คิดว่าเป็นความทะเยอทะยาน ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่องและยังไม่ถึงจุดต่ำสุด ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจให้ตกต่ำลง นั่นจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อสถานะการเงินและการใช้จ่ายของรัฐบาลท้องถิ่น ตลอดจนความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนและการใช้จ่ายของผู้บริโภค

รอยเตอร์

ด้านเบน เบนเน็ต นักยุทธศาสตร์การลงทุนประจำภูมิภาคแปซิฟิกจากลีกัล แอนด์ เจเนอรัล อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ กล่าวถึงแนวทางในการทำงานข้างต้นของรัฐบาลจีนว่า ดูเหมือนผู้กำหนดนโยบายดูจะพอใจกับแนวโน้มในปัจจุบัน ซึ่งนั่นน่าผิดหวังสำหรับคนที่หวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นที่ใหญ่กว่านี้ โดยมีการสนับสนุนทางวาทศิลป์สำหรับหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นและภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่สิ่งสำคัญคือจะนำไปใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างไร

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ประกาศจะจัดสรรงบประมาณทางทหารในปีนี้เพิ่มขึ้น 7.2% มีมูลค่า 16.7 ล้านล้านหยวน ซึ่งแผนการจัดสรรงบประมาณกลาโหมของจีน ยังเป็นที่จับตามองของชาติเพื่อนบ้านและสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวบรรยากาศตึงเครียดที่มีอยู่สูงกับไต้หวัน ที่จีนถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนเอง โดยในรายงานการทำงานของรัฐบาลจีนล่าสุดได้ย้ำถึงข้อเรียกร้องการรวมชาติกับไต้หวัน แต่เน้นย้ำเพิ่มเติมว่าจีนต้องการ “อย่างเด็ดขาด” ในการทำเช่นนั้น โดยได้ตัดถ้อยคำที่ว่า “การรวมชาติอย่างสันติ” ออกไป จากที่เคยปรากฏอยู่ในรายงานก่อนหน้านี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image