จบไม่สวย! ‘เอเวอร์แกรนด์-ผู้ก่อตั้ง’ ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง มูลค่า 2.8 ล้านล้าน

จบไม่สวย! ‘เอเวอร์แกรนด์-ผู้ก่อตั้ง’ ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง มูลค่า 2.8 ล้านล้าน

เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจนกระทั่งถูกศาลในฮ่องกงสั่งเลิกกิจการไปเมื่อต้นปีนี้ ล่าสุดทางการจีนได้กล่าวหาเอเวอร์แกรนด์ และนายฮุย กา ยัน ในภาษากวางตุ้ง หรือนายสวี เจี่ยอิ้น ในภาษาจีนกลาง ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ในข้อหาฉ้อโกงคิดเป็นมูลค่า 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.808 ล้านล้านบาท

หน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของจีนได้สั่งปรับธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหิงต้า ซึงเป็นชื่อเดิมของเอเวอร์แกรนด์ เป็นเงิน 583.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.1 หมื่นล้านบาท จากข้อกล่าวหาว่าได้มีการตกแต่งเพิ่มรายได้ของบริษัทขึ้น 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลา 2 ปีก่อนหน้าที่บริษัทจะเริ่มผิดนัดชำระหนี้

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (CSRC) ยังกล่าวโทษนายฮุย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของจีนว่า สั่งการให้มีการทำผลประกอบการของบริษัทเหิงต้าเกินจริงในปี 2562 และ 2563

Advertisement

นายฮุยถูกสั่งปรับเป็นเงิน 6.5 ล้านดอลลาร์ หรือ 234 ล้านบาท จากการยื่นฟ้องของตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ และยังถูกสั่งแบบจากตลาดการเงินของจีนตลอดชีวิตอีกด้วย

เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน นายฮุยในฐานะประธานบริษัทเอเวอร์แกรนด์ยังอยู่ภายใต้การจับตามองของตำรวจ หลังจากที่เขาถูกสอบสวนในข้อหาต้องสงสัยว่าก่ออาชญากรรมที่ผิดกฎหมาย

การประกาศเอาผิดกับนายฮุยมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ CSRC ให้คำมั่นว่า จะปราบปรามการฉ้อโกงหลักทรัพย์ และปกป้องนักลงทุนรายย่อยอย่างเต็มความสามารถ

Advertisement

เอเวอร์แกรนด์ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของวิกฤตด้านอสังหาริมทรัยพ์ของจีน ที่มีหนี้พอกพูนมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งหลังจากที่ถูกศาลฮ่องกงสั่งล้มเลิกกิจการแล้ว ก็มีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีให้ตรวจสอบสถานะทางการเงินโดยรวมของบริษัท และจัดทำกลยุทธ์ปรับโครงสร้าง ซึ่งอาจรวมถึงการยึดและขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปชำระหนี้คงค้าง

อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนอาจไม่เต็มใจที่จะเห็นการหยุดการพัฒนาภาคส่วนดังกล่าว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจจีน ทำให้ปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในภาพรวมอย่างมาก ปัญหาในภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์ของจีนเริ่มขึ้นหลังจากที่ทางการได้ออกมาตรการควบคุมจำนวนเงินที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สามารถกู้ยืมได้ในปี 2564 นับตั้งแต่นั้นมา บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายแห่งก็พากันผิดนัดชำระหนี้

จากข้อมูลตัวเลขทางการที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนลดลง 9% ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่การก่อสร้างใหม่ลดลง 30% ซึ่งเป็นการลดลงที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 1 ปีของจีน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image