เผยเรือต้าหลี่แจ้งขอความช่วยเหลือ พบไฟดับก่อนชนสะพานบัลติมอร์ คาดดับ 6 ชี้กระทบห่วงโซ่อุปทานหนัก

AP

เผยเรือต้าหลี่แจ้งขอความช่วยเหลือ พบไฟดับก่อนชนสะพานบัลติมอร์ คาดดับ 6 ชี้กระทบห่วงโซ่อุปทานหนัก

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือต้าหลี่ติดธงสิงคโปร์ชนเข้ากับสะพานฟรานซิส สก๊อต คีย์บริดจ์ ข้ามแม่น้ำปาทัปสโก ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ทำให้สะพานพังถล่มลงมา มีสาเหตุมาจากไฟฟ้าบนเรือดับ

บริษัทซีเนอร์จี มารีน กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการเรือได้แจ้งกับการท่าเรือสิงคโปร์ว่า เรือต้าหลี่ขนาด 948 ฟุต ได้แจ้งปัญหาไฟดับก่อนเกิดการชนเข้ากับสะพาน โดยเรือประสบปัญหาสูญเสียแรงขับชั่วขณะและได้ทำการทอดสมอเรือ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนที่เรือจะชนเข้ากับเสาของสะพาน

อย่างไรก็ดี การแจ้งเตือนขอความช่วยเหลือล่วงหน้าของเรือ ทำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้หยุดไม่ให้รถสัญจรบนสะพานได้ก่อนที่สะพานจะถล่มลง ซึ่งเวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า การที่เราสามารถหยุดรถไม่ให้ใช้สะพานได้ช่วยชีวิตคนไว้เมื่อคืน คนเหล่านี้ถือเป็นวีรบุรุษ

Advertisement

หลังเกิดเหตุมีรายงานว่ารถบางส่วนที่อยู่บนสะพานและคนงานที่กำลังทำการอุดหลุมบ่อบนผิวถนนของสะพานได้ตกลงไปในแม่น้ำที่หนาวเย็นจัด เจ้าหน้าที่สามารถช่วยผู้ที่ตกลงไปในแม่น้ำได้ 2 คน โดย 1 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคนงานซ่อมผิวถนน

เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐแมริแลนด์และหน่วยยามฝั่งสหรัฐระบุว่า เนื่องจากทีมน้ำประดาน้ำต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายในทะเลที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยจึงถูกระงับหลังเกิดอุบัติเหตุราว 18 ชั่วโมง

พลเรือตรีแชนนอน กิลรีธ จากหน่วยงานยามฝั่งรับว่า ไม่มีความหวังว่าจะพบคนงานที่สูญหายรอดชีวิต เนื่องจากน้ำที่เย็นจัดและระยะเวลาที่ผ่านไปนับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ

Advertisement

พันตำรวจเอกโรแลนด์ บัตเลอร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่หวังว่าจะส่งนักประดาน้ำกลับลงไปอีกครั้งหลังพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่ 27 มีนาคมนี้ เพื่อพยายามเก็บกู้ศพของคนงานกลับขึ้นมา

พีท บุตตีจิก รัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐ กล่าวว่า การปิดเส้นทางเดินเรือจากท่าเรือบัลติมอร์ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดสายหนึ่งของสรหัฐจนกว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญและยือเยื้อต่อห่วงโซ่อุปทาน

ทั้งนี้ ตามข้อมูลของท่าเรือพบว่า ท่าเรือบัลติมอร์ถูกใช้ในการขนส่งรถยนต์มากกว่าท่าเรืออื่นๆ ของสหรัฐ โดยในปี 2022 มีการใช้ขนส่งรถมากกว่า 75,000 คันต่อปี ล่าสุดเจเนอรัล มอเตอร์ และฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางจัดส่งรถยนต์แล้ว ทั้งยังบอกด้วยว่ผลกระทบจากการหยุดชะงักจะเกิดขึ้นน้อย

นอกจากผลกระทบกับการจัดส่งรถยนต์แล้ว การปิดท่าเรือยังบังคับให้ผู้ที่ส่งสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ต้องเปลี่ยนเส้นทางเรือที่มุ่งหน้ามายังบัลติมอร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอาจจะสร้างความล่าช้าและค่าใช้จ่ายในพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตะวันออกของสหรัฐ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวชื่นชมหน่วยยามฝั่งที่ตอบสนองต่อคำร้องขอความช่วยเหลือจากเรือขนส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว รวมถึงชื่นชมเจ้าหน้าที่ขนส่งของรัฐแมริแลนด์ที่ปิดสะพานก่อนที่มันจะถูกชน และบอกด้วยว่าเขาจะรีบเยือนบัลติมอร์โดยเร็วที่สุด

ไบเดนยังบอกด้วยว่า เขาต้องการให้รัฐบาลกลางเป็นผู้จ่ายเงินเพื่อสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ โดยเขาและทีมงานจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเร่งให้มีการเปิดท่าเรืออีกครั้ง และสร้างสะพานใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ที่มนุษย์จะสามารถทำมัน

อุบัติเหตุดังกล่าวถือเป็นการถล่มของสะพานในสหรัฐครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 เมื่อสะพาน I-35W ในเมืองมินนีแอโพลิสพังลงในแม่น้ำมิสซิสซิปปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image