สหรัฐส่งสัญญาณเตือนถึง ‘อิหร่าน’ คาดงัดมาตรการตอบโต้ท่าทีแข็งกร้าว

ไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ (AFP PHOTO / NICHOLAS KAMM)

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศเตือนอิหร่าน หลังจากที่อิหร่านได้ทำการทดลองขีปนาวุธพิสัยกลางเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐระบุว่าเป็นการขัดต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) โดยสหรัฐจะทำการพิจารณาอีกครั้งเกี่ยวกับการตอบโต้อิหร่านต่อไป ซึ่งท่าทีที่แข็งกร้าวของสหรัฐต่อรัฐบาลอิหร่าน อาจจะทำให้ภูมิภาคแห่งนี้เกิดความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสหรัฐจะมีมาตรการตอบโต้อิหร่านอย่างไร แต่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐส่งสัญญาณว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ต้องการให้มีมาตรการต่ออิหร่านที่แข็งกร้าวมากขึ้น ซึ่งอาจจะรวมถึงการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ ที่จะเป็นการขัดขวางการทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านที่มีขึ้นเมื่อปี 2558 ของนายบารัค โอบามา ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้น ที่นายทรัมป์เองออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านมาตลอดว่าเป็นข้อตกลงที่อ่อนแอและใช้การไม่ได้

โดยนายไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันของสหรัฐ ที่ถือว่าเป็นการแถลงที่แข็งกร้าวมากที่สุดของรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของทรัมป์นับตั้งแต่เริ่มงานเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยชี้ชัดว่าการเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอิหร่านในสมัยโอบามานั้นได้จบลงแล้ว

นายฟลินน์กล่าวว่า แทนที่จะขอบคุณสหรัฐเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ แต่กลายเป็นว่าอิหร่านกลับรู้สึกหาญกล้ามากขึ้น ดังนั้น วันนี้สหรัฐจึงขอประกาศเตือนไปยังอิหร่าน พร้อมกับระบุว่าปฏิบัติการโจมตีเรือของกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียของกลุ่มกองกำลังฮูธี ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่านบริเวณนอกชายฝั่งประเทศเยเมนนั้น เป็นการเน้นย้ำถึงพฤติกรรมที่ปั่นป่วนไปทั่วตะวันออกกลางของอิหร่าน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image