
มาเลย์ขยายผลสอบ ชายอิสราเอลโยงองค์กรอาชญากรรม หลังโดนจับพร้อมอาวุธปืน ที่ลอบนำเข้าจากไทย
เมื่อวันที่ 2 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจมาเลเซียกำลังขยายผลสอบสวนกรณีการจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่เดิมระบุว่าอาจเป็นสปายไว้ได้ในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อสัปดาห์ก่อน จากการมีอาวุธปืนในครอบครองรวม 6 กระบอก และกระสุนปืนอีก 200 นัด ว่ามีความเกี่ยวข้องโยงใยกับองค์กรอาชญากรรมในอิสราเอลตามที่มีรายงานข่าวหรือไม่
นายราซารูดิน ฮูเซน ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยชาวอิสราเอลรายนี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา คือนายชาลอม อาวีตัน อายุ 36 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการสอบสวน
ก่อนหน้านั้นเดอะ ไทม์สออฟอิสราเอล สื่ออิสราเอลรายงานเมื่อวันที่ 30 มีนาคมว่า นายอาวีตันมีความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมอิสราเอล ที่กำลังมุ่งหน้าไปสังหารสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมคู่ปรับ
ต่อประเด็นนี้ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียว่าเขาเดินทางมาที่มาเลเซียเพื่อไล่ล่าชาวอิสราเอลอีกคนหนึ่ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงสงสัยและยังไม่ตัดประเด็นความเป็นไปได้ที่ผู้ต้องสงสัยรายนี้อาจมีแผนการจะลงมือทำอย่างอื่น
“เรากำลังพยายามหาสาเหตุ เรากำลังสงสัยว่าทำไมเขาถึงตามหาคนคนเดียวด้วยอาวุธปืนถึง 6 กระบอก” นายฮูเซนกล่าวกับผู้สื่อข่าว และว่า นายอาวีตันได้จ่ายเงินซื้ออาวุธปืนดังกล่าว ที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศไทย ในราคากระบอกละ 10,000 ริงกิต หรือราว 77,000 บาท จากสามีภรรยาชาวมาเลเซียคู่หนึ่ง โดยสามีภรรยาคู่นี้และผู้ต้องสงสัยชาวมาเลเซียอีกรายที่ถูกตำรวจจับกุมเป็นคนขับรถให้กับนายอาวีตัน
ทั้งนี้ทางการมาเลเซียกำลังเตรียมตั้งข้อกล่าวหานายอาวีตัน ที่จะถูกควบคุมตัวถึงวันที่ 7 เมษายน ฐานค้าอาวุธปืนผิดกฎหมายที่มีโทษทั้งเฆี่ยนตี จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
ขณะที่หลังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ ทางการมาเลเซียได้กระชับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดนเข้มข้นขึ้น เมื่อพิจารณาจากเสียงวิจารณ์ในประเทศต่อการกระทำของอิสราเอลในการโจมตีฉนวนกาซา ขณะที่มาเลเซียไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล